วอลุ่มบาง แรงบวกเบาๆ / 1,570-1,585

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • คาด SET วันนี้แกว่งแคบและวอลุ่มเบาบาง: จากในสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยจะเปิดทำการเพียง 3 วัน ทำให้ทางฝ่ายคาดวอลุ่มจะเบาบาง จากนักลงทุนบางส่วนเริ่มหลีกเลี่ยงการถือสถานะข้ามวันหยุดยาว กอปรกับวันนี้แม้ตลาดฝั่งสหรัฐกลับมาเปิด แต่ฝั่งยุโรปยังปิดทำการเนื่องในวัน Easter โดยแรงหนุนหลักต่อตลาดหุ้นไทยคาดได้จาก 1) ภาค Spending ในประเทศ แม้หลายพื้นที่จะงดเล่นน้ำสงกรานต์ ซึ่งเคยเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ปีนี้ ททท.คาดเงินจะสะพัดราว 1.8 หมิ่นล้านบาท ท่ามกลางแนวโน้มเงินเฟ้อไทยที่ชะลอตัวลงต่อเนื่อง กอปรกับ 2) การเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งของไทย พร้อมทั้งความหวังต่อการเร่งออกนโยบายจากพรรคการเมืองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กอปรกับมองแรงหนุน 3) การ Preview งบ 1Q66 จากกลุ่มแบงก์ ซึ่งมีโอกาสเผย NIM ที่สูงขึ้นจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่กลุ่มแบงก์ในสหรัฐกลับดูเสี่ยงกว่า จากการต้องลุ้นว่างบของที่ใดจะได้รับผลกระทบจาก SVB ที่ล้มละลายหรือไม่ ด้านตัวเลขแรงงานสหรัฐล่าสุดพบว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเพิ่ม 2.36 แสนตำแหน่งใกล้เคียงคาดการณ์ ขณะที่อัตราว่างงานสหรัฐเดือน มี.ค. ที่ดีกว่าคาด 3.6% สู่ 3.5% ยังส่งผลให้ Fed Watchtool คาดโอกาสที่เฟดอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกราว 25 bps มีมากกว่าการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.75-5.00% ในรอบประชุม 2-3 พ.ค. นี้ เป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดทุน และยังต้องติดตามความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ต่อเนื่อง หลังจากที่จีนจัดซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันเพื่อตอบโต้ ปธน.ไช่ อิงเหวิน เยือนสหรัฐและเข้าพบประธานสภาสหรัฐ มีโอกาสกดดันภาพรวมการลงทุน แต่หนุนภาพการย้ายฐานการผลิต
  • กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending+ท่องเที่ยว: AOT, BA, CPN, CRC, SNNP, SPA, ZEN 2) ย้ายฐาน+ก่อสร้าง: AMATA, CK, WHA และ 3) Selective: BCH, BDMS PR9, SISB

ปัจจัยบวก

  • นายคาซูโอะ อุเอดะ จะดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่า BOJ วันนี้ วันแรก ซึ่งมีวาระ 5 ปี โดยพรุ่งนี้จะเข้าพบนายกญี่ปุ่นเพื่อหารือ ซึ่งคาดจะมีประเด็นที่ญี่ปุ่นจะใช้นโยบายการเงินเชิงสนับสนุน แต่รายได้ภาคเกษตรอ่อนแอ เงินเฟ้อ และหนี้ผ่อนคลายต่อไป
  • FAO เผยดัชนีราคาอาหารโลกเดือน มี.ค.ลดสู่ระดับ 126.9 จุด และลดลง 12 เดือนติดต่อกัน สะท้อนภาพเงินเฟ้อโลกที่ชะลอตัวลงต่อเนื่อง
  • ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคาดเทศกาลสงกรานต์ปีนี้จะมีปริมาณรถเข้าออกกรุงเทพเพิ่มขึ้นแตะ 7 ล้านคัน (+5.3%y-y) ทางฝ่ายมองเป็นผลบวกต่อกลุ่ม Spending

ปัจจัยลบ

  • สํานักวิจัย S. CIMBT ลดคาด GDP ไทยปีนี้ลงจาก 3.4% สู่ 3.3% โดยมองแม้ภาคบริโภคเอกชนและท่องเที่ยวจะสนับสนุนแต่รายได้ภาคเกษตรอ่อนแอ เงินเฟ้อ และหนี้ครัวเรือนที่สูงจากอัตราดอกเบี้ยยังกดดันกำลังซื้อ
  • จีนออกแถลงการณ์ตอบโต้ ปธน.ใต้หวันที่พบกับประธานสภาผู้แทนฯ สหรัฐว่าเป็นเจตนายั่วยุ และจะดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาดกับกองกำลังแบ่งแยกดินแดน
  • ชัมชุงคาดว่ากําไรในงวด 1Q66 จะปรับลดกิ่ง 95.8% y-y สู่ระดับต่ำกว่า 1 ล้านล้านวอนครั้งแรกในรอบ 14 ปี จากการปรับลดการผลิตชิปและภาวะอุปสงค์เซมิคอนดักเตอร์ชะลอตัว

PICKS OF THE DAY

CRC BUY
  • เป้าหมาย 46.00/ 47.50 แนวรับ 44.00/44.50
  • มองบวกต่อการดำเนินงานปี 66: แนวโน้มปี 66 สดใสต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและบริโภคที่ดีขึ้น ทั้งจากมาตรการรัฐ เช่น ช้อปดีมีคืน (1 ม.ค.-15 ก.พ. ที่ผ่านมา) รวมถึงแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยเพิ่มมากขึ้น โดยใน 1Q66 ขยายตัวสูงถึง 1,199% y-y สู่ระดับ 6.47 ล้านคน
  • เงินเฟ้อชะลอหนุนการจับจ่ายใช้สอย: ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมี.ค. ที่ขยายตัว 2.83% y-y ต่ำสุดในรอบ 15 เดือน ส่งผลในทางบวกต่อการฟื้นตัวของกำลังซื้อของผู้บริโภค และเป็นปัจจัยหนุนให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง กอปรกับได้แรงหนุนจากความคึกคักของการเลือกตั้งทั่วไปปี 66

WHA BUY
  • เป้าหมาย 4.48/4.52 แนวรับ 4.20/4.28
  • ปลายปี BYD ต้นปีลุ้น GAC AION: ผู้บริหารWHA ตั้งเป้าเป็นฮับรถยนต์ EV ในไทย โดยมีที่ดินรอปิดการขายปีนี้ 5-6 พันไร่ รองรับบริษัทที่จะย้ายฐานสู่ไทย ปัจจุบัน BYD ทีตั้งโรงงานในนิคมฯ WHA36 ได้วางศิลาฤกษ์ไปแล้ว ตั้งเป้าผลิตรถยนต์ 1.5 แสนคันต่อปี ทำให้แนวโน้มบริษัทรถจากจีนจากนี้จะทยอยเข้าตั้งโรงงานในไทย ล่าสุด GAC AION ได้ยื่นขอ BOI จึงเป็นไปได้สูงที่จะตั้งโรงงานใน WHA ตาม BYD
  • ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์: จากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ทำให้ภาคธุรกิจพยายามย้ายฐานเพื่อหลีกเลี่ยงการกีดกันการค้า จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ท่าม กลางสภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว
- Advertisement -