ผถห.TPLAS อนุมัติจ่ายเงินปันผลปี 65 อัตรา 0.10 บ./หุ้น เตรียมรับทรัพย์ 3 พ.ค.นี้ ความต้องการใช้ถุงพลาสติกพุ่งหนุนยอดขายคึกคัก ปักหมุดปี 66 รายได้เติบโต 8-10%
ผู้ถือหุ้นบมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) TPLAS พร้อมใจยกมือโหวตผ่านจ่ายปันผลปี2565เป็นเงินสด อัตรา 0.10 บาทต่อหุ้นรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 27,000,000 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิ (Record Date) วันที่ 20 เม.ย. 66 พร้อมจ่ายเงินสดวันที่ 3 พ.ค.นี้ ฟากผู้บริหาร “อภิรัตน์ ธีระรุจินนท์” ระบุแนวโน้มธุรกิจปีนี้สัญญาณดี อุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัว หนุนความต้องการใช้ถุงพลาสติกเพิ่มขึ้นดันยอดขายเติบโต ปักหมุดปี 2566 รายได้เพิ่มขึ้น 8-10% เน้นกลยุทธ์ควบคุมต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมากขึ้น เร่งเพิ่มสัดส่วนรายได้บรรจุภัณฑ์กระดาษแตะ 6%
นายอภิรัตน์ ธีระรุจินนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน) หรือ TPLAS เปิดเผยว่าที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ได้อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของปี 2565 แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมจำนวน 270,000,000 หุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 27,000,000 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 20 เมษายน 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 3 พฤษภาคม 2566
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 8-10% จากปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์ตลาดมีสัญญาณการเติบโตที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา จากนโยบายการเปิดประเทศขณะที่สถานการณ์ของโรค Covid-19 ผ่อนคลายทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งการบริโภคในประเทศก็มีทิศทางที่เป็นบวกส่งผลให้ Sentiment ของการค้าขายภายในประเทศที่ดีขึ้นด้วย
ทั้งนี้ กลยุทธ์ที่จะใช้ดำเนินธุรกิจในปีนี้จะเน้นไปที่การกระตุ้นยอดขายเพิ่ม มีการควบคุมต้นทุนการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ปริมาณการผลิตสินค้าได้มากขึ้น รวมทั้งมีแผนการนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในขั้นตอนการทำงาน เช่น ระบบการส่งข้อมูลอัตโนมัติ ตลอดจนเพิ่มบุคลากรที่มีความสามารถในด้านต่างๆอีกด้วย
“บริษัทฯมีแผนจะรุกตลาดโดยการพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และ การพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เน้นไปที่กลุ่มตลาดเดิมที่มีอยู่เพื่อเสริมฐานให้แกร่ง ซึ่งเป็นกลุ่มแม่ค้าพ่อค้าตลาดสด Street Food และ ร้านอาหารทั่วไป ขณะเดียวกัน บริษัทฯได้มีการศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆที่สามารถนำใช้เพื่อนตอบโจทย์ในการดำเนินธุรกิจเพิ่มเติม รวมไปถึงศึกษาธุรกิจและสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงเพื่อดำเนินการพัฒนาธุรกิจต่อไปในอนาคตอีกด้วย” นายอภิรัตน์กล่าว
สำหรับธุรกิจในกลุ่มบรรจุภัณฑ์กระดาษ ในปีนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเช่นกัน โดยบริษัทฯตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้แตะระดับ 6% จากปัจจุบันอยู่ที่ 4% ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการผลักดันการเติบโตได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันบริษัทฯคาดว่าปีนี้จะให้มีสินค้าใหม่อย่างน้อย 2ชนิด ซึ่งเป็นสินค้าข้างเคียงจากการผลิตเดิม เช่น ถุงชนิดอื่นๆ หรือ ฝาสำหรับปิดชามกระดาษ เป็นต้น