‘บมจ.บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป’ หรือ BVG ประเมินแนวโน้มผลงานไตรมาสแรกปีนี้เติบโตต่อเนื่อง พร้อมเผยความคืบหน้า Joint Venture ในกัมพูชา
‘บมจ.บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป’ หรือ BVG ประเมินแนวโน้มผลงานไตรมาสแรกปีนี้เติบโตต่อเนื่อง พร้อมเผยความคืบหน้า Joint Venture ในกัมพูชา คาดเริ่มให้บริการ TPA ได้ภายในครึ่งปีหลังของปีนี้
‘บมจ.บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป’ หรือ BVG หนึ่งในผู้นำการประกอบธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันสำหรับบริหารจัดการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับประกันภัยรถยนต์และประกันสุขภาพ ประเมินแนวโน้มผลงานไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัวต่อเนื่องรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาคึกคัก ส่งผลดีต่อการใช้บริการแพลตฟอร์ม EMCS และบริการ TPA พร้อมเผยความคืบหน้าการร่วมทุนกับพันธมิตรในกัมพูชา คาดจะเริ่มให้บริการได้ภายในครึ่งปีหลังของปีนี้
นางนวรัตน์ วงศ์ฐิติรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BVG หนึ่งในผู้นำการประกอบธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันสำหรับบริหารจัดการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับประกันภัยรถยนต์และประกันสุขภาพ เปิดเผยว่า จากภาพรวมบรรยากาศและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ที่มีความคึกคักมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบภายหลังผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ได้ส่งผลดีต่อการเติบโตของการใช้บริการแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันสำหรับการเคลมประกันภัยรถยนต์ หรือระบบ EMCS และบริการบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลและสินไหมทดแทนผ่านระบบแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน หรือบริการ TPA ที่มีการใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา รวมทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ ซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวมรายได้จากการให้บริการของ BVG ในไตรมาส 1/2566 ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ตามแผนที่วางไว้
ขณะเดียวกัน ด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยยกระดับแพลตฟอร์มเพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป จากการให้บริการด้วย AI Reviews เพื่อประมวลผลการพิจารณากระบวนการอนุมัติซ่อมในระบบ EMCS คาดว่าจะได้เห็นสัญญาณการปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้เป็นต้นไป โดยบริษัทฯ มีแผนนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม AI Series ได้แก่ AI Estimate ซึ่งเป็นการนำระบบ AI มาช่วยในขั้นตอนที่ผู้เอาประกันภัยแจ้งการเกิดอุบัติเหตุ ให้มีความสะดวกรวดเร็วและช่วยประเมินความเสียหายเบื้องต้น โดยจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการประเมินมูลค่าความเสียหายและตั้งสำรองค่าสินไหมทดแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดต้นทุน ลดขั้นตอนและระยะเวลาการทำงานให้แก่บริษัทประกันภัย ซึ่งตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ BVG ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการ และช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยให้ก้าวสู่ Insurtech อย่างเต็มรูปแบบ
ส่วนความคืบหน้าการขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนนั้น ภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญากับบริษัท Cambodian Reinsurance Company ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจรับประกันภัยต่อในประเทศกัมพูชา เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) ด้วยทุนจดทะเบียน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดย BVG ถือหุ้นร้อยละ 49 นั้น บริษัทฯ จะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเพื่อเข้าไปช่วยยกระดับมาตรฐานการให้บริการเคลมประกันสุขภาพแก่ผู้เอาประกันในกัมพูชาให้ดียิ่งขึ้น โดยในปัจจุบัน บริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทร่วมทุน และขอใบอนุญาตประกอบกิจการ (ไลเซนส์) รวมถึงเตรียมพร้อมด้านบุคลากร ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลและสินไหมทดแทน ผ่านระบบแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน (บริการ TPA) ได้ภายในครึ่งปีหลังของปีนี้