บล.ฟิลลิป:
SCC: คาดกำไรสุทธิฟื้นตัว q-q
ซื้อ TP’66: 366.00
คาดกำไรสุทธิฟื้นตัว q-q จากส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น q-q และการกลับมาเดินเครื่องตามปกติของโรงปิโตรเคมี (ROC) ประกอบกับ margin ของธุรกิจซีเมนต์ (CBM) ที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น q-q เนื่องจากต้นทุนถ่านหินที่ลดลง และ SCC ยังสามารถขึ้นราคาขายปูนได้ ทางฝ่ายยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
- คาดผลการดำเนินงานฟื้นตัว q-q แต่ยังอ่อนตัว y-y: ทางฝ่ายคาดกำไรสุทธิใน 1Q66 จะอยู่ที่ 4,674 ลบ. ฟื้นตัว q-q จากฐานต่ำในช่วง 4Q65 แต่ยังคงอ่อนตัวลง y-y เนื่องจาก 1) ส่วนต่างราคาผลิตภัฑณ์ปี้โตรเคมีที่เริ่มฟื้นตัว โดยส่วนต่างราคาของ HDPE/PP ใน 1Q66 อยู่ที่ 396 ดอลลาร์/ตัน (+9.7%q-q และ -12.6% y-y) และ 380 ดอลลาร์/ตัน (+25.8% q-q และ -20.7% y-y) ตามลำดับ ประกอบกับ ROC ที่กลับมาเดินเครื่องตามปกติในช่วง ก.พ. 66 และราคา Naphtha ที่ปรับตัวสูงขึ้น q-q ส่งผลให้คาดว่า SCC จะมีการรับรู้ stock gain ราว 200-300 ลบ. 2) margin ของธุรกิจ CBM ที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น q-q เนื่องจากต้นทุนถ่านหินที่อ่อนตัวลง q-q ซึ่งคาดว่าจะสามารถชดเชยกับค่าไฟฟ้าที่ปรับตัวสูงขึ้นมาได้ และอุปสงค์ของปูนซีเมนต์ที่สูงขึ้น q-q ตามฤดูกาล ประกอบกับบริษัทยังสามารถขึ้นราคาขายได้อย่างต่อเนื่อง
- คาดกำไรจะค่อยๆฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี: ทางฝ่ายคาดกำไรสุทธิจะค่อยๆ ฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี เนื่องจาก ต้นทุนของธุรกิจ CBM มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงตามราคาถ่านหิน และค่า Ft สำหรับงวด พ.ค.-ส.ค. 66 ปรับตัวมาอยู่ที่ 98.27 สตางค์/kWh ลดลงจาก 154.92 สตางค์/kWh ในงวด ม.ค.-เม.ย. 66