ดอกเบี้ยตัวร้าย กับเงินเฟ้อตัวดี / 1,570-1,585
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาด SET แกว่งตัว Sideways down: ตลาดถูกกดดันความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลัก ซึ่งจะส่งผลให้ศก.เผชิญภาวะถดถอย หลังอังกฤษเผยเงินเฟ้อเดือนมี.ค. ขยายตัว 2 หลัก (y-y) ซึ่งจะสนับสนุนให้ BoE ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ด้านยุโรปเผย CPI เดือนมี.ค. เท่ากับตลาดคาด โดยขยายตัว 6.9%y-y แม่บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อลดลง แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ECB สนับสนุนให้ ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ในการประชุมครั้งหน้า ขณะที่ Goldman Sachs ปรับเพิ่มคาดการณ์ระดับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดของ ECB สู่ 3.75% จากเดิมที่ 3.5% สอดรับกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 2 ปี ที่ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 4.3% จากความกังวลว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ความกังวลดังกล่าวยังส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 2.10% สู่ระดับ $79.16 ต่อบาร์เรล คาดเป็นแรงกดดันต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน ในทางกลับกัน หุ้นในกลุ่มการเงินและธนาคารคาดได้ Sentiment ทางบวก หลัง KTB และ TTB รายงานผลประกอบการ 1Q66 ออกมาสูงกว่าทางฝ่ายคาด อย่างไรก็ดี หุ้นในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่อาจถูกกดดันจากประเด็นเรื่อง STARK เสี่ยงผิดนัดชำระ โดย KBANK เผย ถ้าผิดนัดจริงอาจต้องตั้งสำรองเพิ่ม นอกจากนี้ ตลาดยังพอมีแรงหนุนจากความหวังต่อการฟื้นตัวของศก.จีน รวมถึงศก. ไทยที่มีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมและการจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่เดือนมี.ค.
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending+ท่องเที่ยว: BEC, BJC, COM7, CPALL, ILM, KTB, OR, ORI, TTA, TTB 2) เก็งงบ 1Q66: AAV, AOT, BEM, MTC, SAPPE 3) ความหวังศก.จีนฟื้น: SISB, SNNP และ 4) โรงพยาบาล: EKH, PR9, VIBHA
ปัจจัยบวก
- ส.อ.ท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค.อยู่ที่ระดับ 97.8 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และสูงสุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่เดือนม.ค. 56 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายของอุปสงค์ในประเทศ และภาคการท่องเที่ยวพื้นตัว
- ก.พาณิชย์เผยการจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่เดือนมี.ค. 9,179 ราย ขยายตัว 28% y-y และ 8% m-m และมีทุนจดทะเบียนเกือบ 3 แสนลบ. ขยายตัว 1,055% y-y และ 1,465% m-m
- เจพีมอร์แกนเพิ่มคาดการขยายตัวทางศก.จีนปี 66 สู่ระดับ 6.4% จากที่เคยคาดไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 6% โดยให้เหตุผลว่า ตัวเลขศก. 1Q66 บ่งชี้ว่าศก.จีนจะขยายตัวเพิ่มอีกในอนาคต
ปัจจัยลบ
- ไทยเสี่ยงถูกเก็บภาษีแผงโซลาร์เซลล์ หลังหลังคณะกก.สภาสหรัฐฯ ลงคะแนนเสียง 26-13 เห็นชอบต่อมติการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อแผงโชลาร์เชลล์จากไทย มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา
- อังกฤษเผย CPI เดือนมี.ค. ขยายตัว 10.19% y-y และ 0.89% m-m สูงกว่าตลาดคาดที่ 9.8% y-y และ 0.5% m-m ทั้งนี้ภาคครัวเรือนอังกฤษยังคงต้องรับมือกับราคาอาหารและพลังงานที่พุ่งสูง ในขณะที่คนงานหลายภาคส่วนได้นัดหยุดงานครั้งใหญ่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หลังไม่พอใจเกี่ยวกับค่าจ้างและเงื่อนไงการทํางาน
- ซีเอ็นบีซีเผยตั้งแต่จีนไปจนถึงสหรัฐฯ และ EU การผลิตข้าวเริ่มลดน้อยลง ส่งผลให้ราคาข้าวสาหรับประชาชนกว่า 3.5 พันล้านคนทั่วโลกพุ่งทะยานขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งการบริโภคข้าวคิดเป็น 90%
PICKS OF THE DAY
CPALL BUY
- เป้าหมาย 67.00/70.00 แนวรับ 62.00/64.00
- ผลดำเนินงานฟื้นตัว: ด้วยภาพของการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคักหลังเปิดประเทศและการกลับมาใช้ชีวิตปกติของประชาชนคาดช่วยหนุนแนวโน้มผลดำเนินงานของ CPALL ช่วง 1Q66 ฟื้นตัวดีขึ้นทั้ง y-y และ q-q จากธุรกิจค้าปลีกอย่าง 7-11 และธุรกิจค้าส่งอย่าง MAKRO สะท้อนผ่าน SSSG ที่อยู่ในแดนบวก บวกกับการทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าในช่วงที่ผ่านมา และได้ช่วยชดเชยผลกระทบส่วนเพิ่มที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าไฟ และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
- มี Upside จากการรีไฟแนนซ์: แนวโน้มช่วงที่เหลือของปี นอกจากการฟื้นตัวของผลดำเนินงานแล้ว Catalyst ช่วงสั้น CPALL ยังมีลุ้นจากการรีไฟแนนซ์หนี้สกุลดอลลาร์ฯ ที่จะช่วยให้ต้นทุนการเงินลดลง และเป็น Upside ต่อกำไรคาดปรับเพิ่มขึ้น
PR9 BUY
- เป้าหมาย 20.00/21.00 แนวรับ 18.50/19.00
- ลุ้นจีนทะลักเข้าไทย: ผู้บริหารเผยทิศทาง 2Q66 ว่าภาพรวมผลการดำเนินงานจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง และดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 65 เนื่องจากจะเริ่มมีผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่กลางไตรมาส โดยเฉพาะในส่วนของชาวจีน บวกกับผู้ป่วยในแผนกเฉพาะทางต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น เช่น ศูนย์สลีปเซ็นเตอร์ เลสิกและศัลยกรรมความงาม เป็นต้น
- หุ้น Defensive: สำหรับภาวะตลาดมีความผันผวน ด้วยค่า Beta ของ PR9 ที่ 0.68 สะท้อนเป็น Defensive Stock ให้แก่นักลงทุนได้ กอปรกับคาดได้ Sentiment เชิงบวกจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด 19 ที่เริ่มกลับมาระบาดอีกระลอกหลังหมดเทศกาลสงกรานต์