บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action TRADING (Downgrade)

TP upside (downside) -11.5%

Close Apr 19, 2023 Price (THB) 26.00

12M Target (THB) 23.00

Previous Target (THB) 31.00

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 1Q66 อยู่ที่ 317 ลบ. (-82.5% QoQ, -75.6% YoY) จากปัจจัยกดดันหลักด้านราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงจากผลกระทบของปริมาณ Supply หมูเถื่อนในตลาดที่สูงขึ้น กดดัน GPM ให้ชะลอลงแรง
  • แนวโน้มกำไร 2Q66 เบื้องต้นคาดจะยังฟื้นตัวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป QoQ และยังชะลอลงแรง YoY จากแนวโน้มราคาขายเฉลี่ยที่คาดจะเริ่มฟื้นมากขึ้น แต่ต้นทุนการเลี้ยงยังอยู่ในระดับสูง

Our view

  • เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2566-67 ของ BTG ทั้ง 30.3% และ 21.5% ตามลำดับ จากการปรับ สมมติฐาน GPM เพื่อสะท้อนปัจจัยกดดันด้านราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงมากกว่าคาด และราคาต้นทุนการเลี้ยงที่สูงขึ้น
  • ผลของการปรับประมาณการกำไรลง ทำให้ราคาเป้าหมายถูกปรับลดลงเป็น 23.00 บาท มี Downside risk 11.5% ปรับลดค่าแนะนำลงเป็น TRADING เชิงกลยุทธ์ระยะสั้นยังขาดประเด็นบวกหนุน ยังไม่แนะนำให้เข้าลงทุน

BETAGRO ยังไม่น่าสนใจในระยะสั้น

Supply หมูเถื่อนที่มากขึ้นกดดันกำไร 1Q66 ชะลอแรงทั้ง QoQ และ YoY

เราคาดกำไรปกติ 1Q66 ของ BTG ชะลอลงแรงทั้ง QoQ และ YoY เหลือเพียง 317 ลบ. (-82.5% QoQ, -75.6% YoY) จากปัจจัยกดดันหลัก คือ ราคาขายเฉลี่ยของบริษัทที่ปรับลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณ Supply หมูในตลาดที่สูงขึ้น และผลกระทบของปริมาณหมูเถื่อนที่ถูกลักลอบนำมาจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด โดยราคาหมูเฉลี่ยใน 1Q66 คาดอยู่ที่ 82 บาท/กก. (-19.1% QoQ, -9.9% YoY) ขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงทั้งราคากากถั่วเหลืองและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สูงขึ้นกดดันอัตรากำไรขั้นต้นเช่นกัน ทำให้เราคาด GPM ชะลอลงอยู่ที่เพียง 12.3% จาก 18.2% ใน 4Q65 และจาก 17.8% ใน 1Q65 ขณะที่ SG&A/Sales คาดที่ 10.6% ลดลงจาก 11.1% ใน 4Q65 จากการควบคุมค่าใช้จ่ายมากขึ้นของบริษัทเพื่อช่วยลดผลกระทบของ GPM ที่ลดลง

แนวโน้มกำไรปกติ 2Q66 มีโอกาสฟื้นตัว QoQ อย่างค่อยเป็นค่อยไป

ราคาหมูในตลาดปัจจุบันเริ่มทรงตัว และไม่ปรับลดลงแล้ว สะท้อนปัญหาหมูเถื่อนในตลาดที่เริ่มคลี่คลาย และถูกควบคุมได้มากขึ้น ประกอบกับราคาหมูในปัจจุบันทำให้เกษตรกรรายย่อยออกจากตลาดจากผลประกอบการที่ขาดทุนทำให้ Supply บางส่วนลดลง และเป็นระดับราคาที่ไม่จูงใจเกษตรกรรายใหม่เข้าสู่ตลาด ขณะที่ Demand เรามองว่ามีแนวโน้มดีขึ้นตามเศรษฐกิจในประเทศ และการเลือกตั้งที่ช่วยกระตุ้นการบริโภค ทำให้เราประเมินว่าราคาหมูในตลาดมีโอกาสปรับมาสูงขึ้นได้อีกครั้งใน 2Q66 อย่างไรก็ตาม จะยังเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปและไม่ได้กลับไปสูงเท่าระดับเดิมที่ 100 บาท/กก. ขณะที่ราคาต้นทุนยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง จากนโยบายการควบคุมการเผาเพื่อลดฝุ่น PM2.5 มากขึ้น อาจทำให้ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลดลงทั้งในประเทศและการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้ราคาข้าวโพดมีโอกาสสูงขึ้นต่อ เบื้องต้นเราคาดกำไรปกติ 2Q66 ฟื้นตัว QoQ แต่ยังชะลอลงแรง YoY

ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2566 ลง

ผลของแนวโน้มผลประกอบการใน 1Q66 ที่อ่อนแอกว่าเดิมที่เราประเมินไว้ จากผลกระทบของ Supply หมูในตลาดที่สูงขึ้นจากหมูเถื่อน, ราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงและยังมีแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และราคาต้นทุนวัตถุดิบการเลี้ยงที่สูงขึ้นต่อ ทำให้เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2565-2567 ลง 30.3% และ 21.5% เป็น 3.4 พันลบ. (54.7% YoY) และ 4.1 พันลบ. (+21.4% YoY) ตามลำดับ เป็นผลจากการปรับสมมติฐาน GPM ลงเป็นหลัก

ในระยะสั้นยังขาดประเด็นบวกหนุน ปรับลดคำแนะนำลงเป็น TRADING

ผลของการปรับประมาณการกำไรลง โดยอิง EPS66 ที่ 1.74 บาท และ PER ที่ 13.3 เท่า ส่งผลให้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 ของ BTG ถูกปรับลดลงเป็น 23.00 บาท มี Downside risk 11.5% จึงปรับลดคำแนะนำจาก ซื้อ เป็น TRADING เชิงกลยุทธ์ในระยะสั้นยังขาดประเด็นบวกหนุน แนะนำชะลอการลงทุน หากมีสถานะอาจพิจารณาหาจังหวะ Cut Loss เมื่อราคาหุ้น Rebound

- Advertisement -