บล.ฟิลลิป:
SAT: ยอดขายโต แต่ถูกต้นทุนกดดัน
ซื้อ TP’66: 24.40
แม้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นอาจถูกต้นทุนกดดัน และส่งผลต่อกำไร 1Q66 คาดหดตัว y-y แต่ทางฝ่ายคาดปัญหาจะค่อยๆ คลี่คลายช่วงที่เหลือของปี หลัง SAT ได้ปรับเพิ่มราคาขายให้ลูกค้าไปก่อนหน้าบ้างแล้ว รวมถึงแนวโน้มการเติบโตรายได้ที่คาดดีตามอุตสาหกรรมยานยนต์ เบื้องต้นทางฝ่ายยังคงแนะนำ “ซื้อ”
งบรวม | 1Q66E | 4Q65 | 1Q65 | % y-y | % q-q |
กําไร | 229 | 211 | 259 | -11.6 | +8.4 |
EPS | 0.54 | 0.49 | 0.61 | -11.6 | +8.4 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- กำไร 1Q66 คาดหดตัว y-y: ทางฝ่ายคาด ŞAT จะรายงานกำไรสุทธิ 1Q66 ที่ 229 ลบ. ลดลง 11.6% y-y หากแต่ปรับเพิ่มขึ้น 8.4% q-q ทั้งนี้การลดลง y-y ของกำไรสุทธิคาดถูกกดดันจากตุ้นทุนเหล็กและค่าไฟที่พิ่มขึ้น และถูกสะท้อนผ่าน GPM ที่คาดปรับลงมาอยู่ที่ 17.2% จาก 1Q65 ที่ 17.9% ถึงแม้ว่ารายได้จากการขายและการให้บริการคาดจะเติบโต 6.0% y-y หลังรับรู้ยอดคำสั่งซื้อใหม่เข้ามา อีกทั้งคาดยังได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้น ภายหลังจากสิทธิประโยชน์จาก BOI เริ่มทยอยหมดลง ขณะที่การเพิ่มขึ้น q-q ของกำไรสุทธินั้น หลักๆ มาจากการปรับเพิ่มราคาขายสินค้าให้ลูกค้าไปบ้างบางส่วนแล้ว ทำให้ GPM ปรับเพิ่มขึ้นจาก 16.8% ใน ช่วง 4Q65 เป็น 17.2%
- EV คืบหน้า แต่ยังไม่นัยยะในปีนี้: แม้บริษัทจะเริ่มต่อยอดธุรกิจ EV หลังจัดตั้งบ.ร่วมทุน S-TRON หากแต่เบื้องต้นจะเป็นเพียงรถสามล้อไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างให้ทดลองกับ 7-11 และ Flash Express ดังนั้นในปีนี้รายได้อาจจะยังไม่เห็นนัยยะ แต่คาดปีหน้าจะเติบโตก้าวกระโดด