บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +19.9%

Close Apr 20, 2023 Price 158.50

12M Target 190.00

BANGKOK BANK (BBL) กำไรดีกว่าคาด หนุนจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่โตเด่น

Earnings Results

  • BBL รายงานกำไรสุทธิ 1Q66 จำนวน 10,129 ลบ. โตเด่น 42.3%YoY และ 33.8%QoQ ดีกว่าที่เราและตลาดคาด 14.5% และ 12.7% ตามลำดับ
  • ปัจจัยบวกหลักๆ มาจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น 58.8%QoQ สูงกว่าคาดมาก หลังพลิกกลับมามีกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่ายุติธรรมผ่านงบกำไรขาดทุนที่ 1,445 ลบ. จากที่ขาดทุน 1,955 ลบ. ใน 4Q65 บวกกับกำไรจากเงินลงทุนที่ 30 ลบ. จากที่มีผลขาดทุน 646 ลบ. ใน 4Q65 นอกจากนี้รายได้ค่าธรรมเนียมยังโต 3.5%QoQ จากบริการธุรกรรมระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น
  • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 1.2%QoQ หลังค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงระบบโครงสร้าง IT ลดลง ทำให้ Cost to Income Ratio ปรับลงเหลือ 46.8% จาก 51.7% ใน 4Q65
  • อย่างไรก็ดี ผลบวกดังกล่าว บางส่วนถูกหักล้างด้วย 1) รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิที่ลดลง 1.2%QoQ จากพอร์ตสินเชื่อรวมที่ปรับลง 1.5%QoQ หลังมีลูกหนี้บริษัทขนาดใหญ่จ่ายชำระคืนหนี้จำนวนมากในช่วงต้นปี ขณะที่ NIM ทรงตัวที่ 2.8% ใกล้เคียงกับ 4Q65 แม้ต้นทุนทางการเงินจะปรับขึ้น จากผลของการขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก (BBL มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก CASA 0.05% เทียบกับตอนสิ้นเดือน ธ.ค.) และผลจากอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุน FIDF ที่กลับสู่ระดับปกติที่ 0.46% เป็นไตรมาสแรก แต่ถูกชดเชยด้วย Asset Yield ที่ขยับขึ้นเป็น 4.1% จาก 3.9% ใน 4Q65 หลังทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ให้สอดคล้องกับต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น และ 2) การตั้งสำรองสูงขึ้น 7.1%QoQ ตามนโยบายตั้งสำรองเชิงระมัดระวัง เพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคต ส่วน NPL มีการปรับขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.7% จาก 3.6% ใน 4Q65 แต่ด้วยระดับ Coverage Ratio ที่ 265% สะท้อนว่าคุณภาพสินทรัพย์ของ BBL ยังแข็งแรง

Our Take

  • กำไรสุทธิ 1Q66 คิดเป็น 28.4% ของประมาณการทั้งปี แต่เรายังคงประมาณการเดิม โดยเรามองว่าแนวโน้มกำไรสุทธิใน 2Q66 จะเร่งตัวขึ้นต่อทั้ง YoY และ QoQ หนุนจากการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อฝั่งบริษัทขนาดใหญ่ที่จะทยอยปรับตัวขึ้น สอดรับกับทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ดี และจะยิ่งเร่งตัวขึ้นในช่วงปลายปี หลังมีความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่ NIM มีแนวโน้มปรับขึ้น QoQ หนุนจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ที่เร็วกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และการรับรู้พอร์ตสินเชื่อของ Permata ที่มี Yield สูงกว่าในไทยเพิ่มขึ้น ส่วนการตั้งสำรองคาดจะเริ่มทยอยปรับตัวลง หลังความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้มีแนวโน้มแข็งแรงขึ้น และบริษัทมี Coverage Ratio ที่สูงมากแล้ว นอกจากนี้ใน 1Q66 ระดับ Credit Cost อยู่ที่ 1.3% สูงกว่าเป้าทั้งปีของบริษัทที่ต่ำกว่า 1% ทำให้คาดบริษัทจะทยอยลด Credit Cost ในช่วงที่เหลือของปีลง หนุนให้เราคาด BBL จะมีกำไรสุทธิในปี 2566 จำนวน 35,657 ลบ. โต 21.7%YoY
  • เรายังคงชอบแนวโน้มการเติบโตของ BBL โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความแข็งแรงทางการเงิน และมีแนวโน้มจะกลับมาเร่งลงทุนขยายธุรกิจมากขึ้นในปีนี้ ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายด้วย PBV ต่ำเพียง 0.6x และมี Upside 19.9% จากมูลค่าพื้นฐานเดิมปี 2566 ที่ 190 บาท จึงคงคําแนะนำ “ซื้อ”
- Advertisement -