บล.ฟิลลิป:

SPALI: 1Q66 กำไรลดลง y-y และ q-q

ซื้อ TP’66: 29.00

1Q66 คาดกำไร 1,040 ลบ. -11.7%y-y -52.1%q-q อ่อนตัวลงจากรายได้โอนที่ลดลง ดีมานด์ถูกเร่งโอนใน 4Q65 จากการยกเลิกมาตรการผ่อนคลาย LTV, ส่วน GPM คาดลดลง เนื่องจากโครงการที่ขายมีต้นทุนผลิตที่สูง, มอง 1Q66 เป็นจุดต่ำสุดของปี และจะดีขึ้นใน 2Q66 ราคาหุ้นยังต่ำกว่าราคาพื้นฐาน คงคำแนะนำ “ซื้อ”

งบรวม

1Q66E

4Q65

1Q65

% y-y

% q-q

กําไร

1,040

2,171

1,178

-11.7

-52.1

EPS

0.53

1.11

0.55

-3.1

-52.1

หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท

  • คาด 1Q66 กำไรลดลง -y-y และ -q-q : 1Q66 Presale 9,029 ลบ. +y-y และ +q-q เติบโตต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนมาจากแนวราบเป็นหลักถึง 71%, แต่คาดรายได้โอนลดลง y-y และ q-q ผลกระทบจากยกเลิกการผ่อนคลายมาตรการ LTV ทำให้มีดีมานด์เข้าไปโอนใน 4Q65 สูง, และคาด GPM ที่ 36.5% –q-q และ -y-y จาก 1.) สินค้าที่โอนในไตรมาสนี้จะเป็นต้นทุนวัตถุดิบที่สูง จากช่วง 2Q65-3Q65, 2.) สัดส่วนโอนแนวราบ 70% สูงกว่า 1Q65 ที่ 56% ทำให้ GPM ต่ำลง, 3.) มีการลดราคาเพื่อระบายสินค้าของโครงการในภูเก็ต, มองยอดโอนใน 1Q66 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี และจะฟื้นตัวได้ใน 2Q66 และ 2H66 เนื่องจากมีคอนโดเริ่มโอนได้ตั้งแต่ไตรมาสสองเป็นต้นไป และภูเก็ตหนึ่งในพื้นที่สำคัญ ทำยอดขายมากกว่าครึ่งแรกของปี 2022 ไปแล้ว และคาดปีนี้ยอดโอนในภูเก็ตโตมากกว่าเท่าตัว, คาด 1Q66 กำไร 1,040 ลบ. -11.7%y-y -52.1%q-q
  • ราคาถูก: ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 66 อยู่ที่ 8,294 ลบ. +1.5%y-y, XD 8 พ.ค. 66 ที่ 0.75 บาท/หุ้น ราคาพื้นฐานปี 66 ที่ 29.00 บาท/หุ้น เนื่องจากราคาหุ้นยังต่ำและคาดผลประกอบการจะดีขึ้นตั้งแต่ 2Q66 คงคำแนะนำ “ซื้อ”
- Advertisement -