บล.กรุงศรีฯ:

KASIKORNBANK (KBANK TB/ KBANK.BK)

KBANK – มูลค่าไม่แพง สะท้อนความกังวลคุณภาพสินทรัพย์แล้ว (TP Bt160.0, BUY)
กลุ่มอุตสาหกรรมธนาคาร
หุ้นKBANK
มูลค่าพื้นฐาน160.00
คำแนะนำBUY

ผลประกอบการใน 1Q23 ดีขึ้นอย่างมาก qoq หลังจากที่ใน 4Q22 มีการใช้กลยุทธ์เชิงรุกเพื่อล้างงบดุล อย่างไรก็ตาม กำไรยังต่ำกว่าที่เราคาดเอาไว้เพราะ ECL สูงขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการกั้นสำรองเผื่อผลขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้นจากการปล่อยกู้ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่เจ้าหนึ่ง ทั้งนี้ แม้ว่าคุณภาพสินทรัพย์ยังเป็นประเด็นหลักที่น่ากังวลสำหรับ KBANK แต่เรามองราคาหุ้นดูน่าสนใจเมื่อมองในแง่ของ risk-to-reward เราคงคำแนะนำซื้อ ประเมินราคาเป้าหมายใหม่ที่ 160 บาท

กำไรดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง qoq แต่ยังต่ำกว่าที่เราคาดเอาไว้

กำไรสุทธิของ KBANK ใน 1Q23 รายงานออกมาที่ 1.07 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 237% qoq แต่ลดลง 4% qoq ผลประกอบการต่ำกว่าประมาณการของเรา 14% และต่ำกว่า consensus ของตลาด 6% เนื่องจาก ECL และ NII แย่กว่าที่คาดเอาไว้ โดย KBANK ตั้ง ECL ใน 1Q23 ไว้ที่ 1.27 หมื่นล้านบาท ลดลงอย่างมากจาก 2.28 หมื่นล้านบาทใน 4Q22 ซึ่งเป็นช่วงที่ธนาคารดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อล้างงบดุล แต่สูงขึ้นจาก 9 พันล้านบาทใน 1Q22 ทั้งนี้ ECL ยังอยู่ในระดับสูงใน 1Q23 เป็นการตั้งสำรองเพื่อรองรับผลขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้นจากการปล่อยกู้ให้กับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่รายหนึ่ง นอกจากนี้ NII ยังออกมาต่ำกว่าที่เราคาดเอาไว้ เพราะ NIM ลดลง โดย NIM ของ  KBANK ใน 1Q23 อยู่ที่ 3.46% เพิ่มขึ้นจาก 2.19% ใน 1Q22 แต่ลดลงจาก 3.62% ใน 4Q22 ซึ่ง NIM ที่ลดลง qoq เป็นเพราะพอร์ตสินเชื่อหดตัวลง และค่าธรรมเนียมกองทุน FIDF เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ พอร์ตสินเชื่อลดลง 1.2% เพราะถูกฉุดโดยสินเชื่อ high yield เช่น SME, บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล

 

Credit cost อาจจบปีที่ขอบบนของช่วงเป้าหมาย

ผู้บริหารของธนาคารยังคงเป้าหมายทางการเงินทุกตัวของปี 2023 เอาไว้เท่าเดิม โดยคาดว่าสินเชื่อปีนี้ยังน่าจะโตได้ตามเป้าที่ 5-7% แม้จะเริ่มต้นปีได้ช้า ในขณะที่ด้าน NIM ในปี FY23 อาจจบปีที่ขอบบนของช่วงเป้าหมายที่ 3.30-3.45% เพราะคาดว่า NIM จะเริ่มเร่งตัวได้จาก 2Q23 เป็นต้นไป เพราะจะได้แรงส่งจากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในรอบการประชุมเดือนพฤษภาคม และ กลยุทธ์การปล่อยกู้ที่มูลค่าต่อรายไม่สูง (small ticket-size) อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารยอมรับว่า credit cost ในปี FY23 อาจจะสูงกว่าเป้าที่ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ที่ 175-200bps เป็น <210bp เพราะอาจจะมีผลขาดทุนจากการปล่อยกู้ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่รายหนึ่งและการใส่ management overlay ทั้งนี้ NPL น่าจะยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ และเป็นไปตามเป้าปี FY23 ที่ <3.25% จาก 3.04% ใน 1Q23 เนื่องจากมีการใช้กลยุทธ์เชิงรุกในการล้างงบดุล และความร่วมมือกับพันธมิตร AMC

 

risk/reward ของราคาหุ้นดูสนใจ แม้จะถูกกดดันจากสภาวะตลาดเชิงลบ

เราปรับลดประมาณการกำไรปี FY23-25 ลง 14-20% เนื่องจากเราปรับเพิ่มสมมติฐาน ECL ขึ้นและปรับลดสมมติฐาน NIM ลง เราคิดว่าคุณภาพสินทรัพย์จะยังเป็นประเด็นสำคัญที่น่าเป็นห่วงของ KBANK และ credit cost ในช่วงที่เหลือของปีนี้น่าจะยังอยู่ในระดับสูงต่อไป ถึงแม้ว่า KBANK อาจจะดูด้อยในเชิงของการเติบโตและคุณภาพของพอร์ต แต่ที่ระดับราคาหุ้นในปัจจุบัน เรามองว่าราคาหุ้นน่าสนใจในเชิง risk to reward โดยราคาหุ้นมี upside อีกมากหลังจากสะท้อนความเสี่ยงด้านdownside ทั้งหมดไปแล้ว เราประเมินว่ากำไรของ KBANK จะอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทใน 2Q-3Q23 ก่อนที่จะลดกลับลงไปอยู่ที่ 8-9 พันล้านบาทใน 4Q23 เนื่องจาก OPEX จะสูงตามฤดูกาลในไตรมาสสุดท้ายของปี เราคงคำแนะนำซื้อ KBANK และประเมินราคาเป้าหมายใหม่ที่ 160 บาท อิงจาก PB ที่ 0.64x

- Advertisement -