ลงแล้ว ลงอยู่ ลงต่อ / 1,520-1,540
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาด SET ปรับตัวลงต่อในวันนี้: สอดรับกับทิศทางของตลาดฝั่งสหรัฐฯ และยุโรป ที่ปิดในแดนลบเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยตลาดถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะศก.ชะลอตัว หลังธนาคารและบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ อาทิ UBS เผยกำไรสุทธิดิ่งลง 52% ใน 1Q66 สู่ระดับ 1.03 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากต้องกันเงินสำรองเพื่อยุติคดีความที่เกี่ยวข้องกับการจําหน่าย MBS ในสหรัฐฯ ขณะที่ United Parcel Service (UPS) เผยผลประกอบการที่อ่อนแอ และยังได้ปรับลดคาดผลประกอบการปี 66 ด้าน 3M แม้รายงานผลประกอบการดีกว่าตลาดคาด แต่การประกาศปลดพนักงาน 6 พ้นตำแหน่งทั่วโลกของบริษัท ได้สะท้อนถึงภาพธุรกิจและศก.ที่ยังมีความน่ากังวล ทั้งนี้ปัจจัยลูบข้างต้นได้บดบังกำไรและรายได้สูงกว่าตลาดคาดของ Alphabet, GM, McDonald’s, PepsiCo, Visa เป็นต้น นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพในภาคธนาคาร หลัง First Republic Bank เผยว่าลูกค้าได้แห่ถอนเงินฝากมากกว่าคาดใน 1Q66 โดยยอดเงินฝากลดลง 40.8% สู่ระดับ 1.045 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 1,450 แสนล้านดอลลาร์ และจะเป็น Sentiment ทางลบต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารในวันนี้ ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานคาดถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลดลง 2.15% สู่ระดับ $77.07 ต่อบาร์เรล ท่ามกลางความกังวล เกี่ยวกับศก.ชะลอตัว อย่างไรก็ดี ทางลงของตลาดวันนี้ยังลุ้นจะถูกจำกัดด้วยความหวังว่ารัฐจะช่วยเหลือค่าไฟฟ้าในภาคครัวเรือน ซึ่งจะเป็นแรงหนุนต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค รวมถึงภาพอุตสาหกรรมสำคัญของไทยอย่างยานยนต์ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) เก็งงบ 1Q66: AOT (2Q66), BEM, BH, SABINA, SAPPE, SIRI 2) Spending+ท่องเที่ยว: BJC, CPALL, CPN, CRC, MAJOR, OSP 3) ยานยนต์+นิคมฯ: AH, AMATA, SAT, WHA และ 4) Short sell: EA, GPSC, TRUE
ปัจจัยบวก
- ส.อ.ท.เผยเดือนมี.ค. ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป อยู่ที่ 98,381 คัน เพิ่มขึ้น 4.84%y-y คิดเป็นมูลค่า 84,054 ลบ. เพิ่มขึ้น 4.89% y-y ขณะที่ยอดการผลิตรถยนต์สำเร็จรูป เดือนมี.ค. อยู่ที่ 179,848 คัน เพิ่มขึ้น 4.16%y-y
- สศค.เผยดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตศก.ภูมิภาคเดือนเม.ย. ที่จะสะท้อนความเชื่อมั่นศก.ใน 6 เดือนข้างหน้า ปรับตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาค นำโดยภาคใต้ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน EEC ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการ
- ครม.มีมติเห็นชอบแนวทางการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าให้แก่ประชาชน ใช้งบประมาณราว 11,112 ลบ. เตรียมเสนอให้ กกต.พิจารณาให้เห็นชอบการใช้งบประมาณ
ปัจจัยลบ
- ก.พาณิชย์จะรายงานตัวเลขส่งออกเดือนมี.ค.ในวันนี้ ตลาดคาดหดตัว 14.70% y-y จากหดตัว 4.74% ในเดือนก.พ. ตามการชะลอตัวของศก.คู่ค้า คาดเป็น Sentiment ทางลบต่อตลาด
- สศค.ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของ GDP ของไทยปีนี้เหลือโต 3.6% จากเดิมคาด 3.8% รับผลภาคส่งออกที่คาดว่าจะหดตัว 0.5% จากความเสี่ยงศก.และการค้าโลก
- Conference Bcard เผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 101.3 ในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าตลาดคาดและเดือนมี.ค.ที่ระดับ 104.0
- ฟิลิป เลน สมาชิกคณะกรรมการ ECB กล่าวกับเลอมองเดอว่า ECB จําเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมสัปดาห์หน้า ขณะที่อิชาเบล ชาบูล กรรมการ ECB กล่าวกับโพลิติโคว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 0.50% ยังอยู่ในกรอบการพิจารณา
PICKS OF THE DAY
SABINA BUY
- เป้าหมาย 28.00/29.00 แนวรับ 26.25/26.75
- คาดกำไรสุทธิ 1Q66 โต y-y, q-q: ด้วยแรงหนุนจากบริโภคที่ฟื้นตัว บวกกับการออกสินค้าใหม่ ซึ่งมีนวัตกรรมอย่างใหม่ “Braless Bra” ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดี คาดหนุนยอดขายเติบโต อีกทั้งยังมีแรงบวกจาก GPM คาดกลับมายืนเหนือระดับ 50% จากการบริหารต้นทุนได้ดีทั้ง Own Production และ Sourcing
- ช่วงที่เหลือของปียัง On track: แนวโน้มช่วงที่เหลือของปี ทางฝ่ายมองว่า SABINA จะยังคง On-track การเติบโตของยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายทั้งปีที่ 15% y-y ได้ จากตลาดในประเทศที่ติดอันดับในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ และตลาดฟิลิปปินส์ที่ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดแล้ว แม้เพิ่งเริ่มต้นเข้าไปเปิดจุดจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า
TRUE (SHORT) BUY
- เป้าหมาย 7.20/7.45 แนวรับ 7.85/8.00
- Low Season: หลังจากที่ผ่านช่วง High Season ในงวด 4Q65 ไปแล้ว ทางฝ่ายมีมุมมองเชิงลบต่อกลุ่มธุรกิจเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ, และการขายเครื่องพร้อมแพ็กเกจที่เข้าสู่ช่วงยอดขายของ iPhone 14 ชะลอลง พร้อมทั้งเป็น Low Season ทางธุรกิจ ด้านการควบรวมกับ DTAC ที่แล้วเสร็จ ทำให้ตลาดรับรู้ปัจจัยบวกดังกล่าวไปหมดแล้ว
- คาดผลการดำเนินงาน 1Q66 ไม่โดดเด่น: ทางฝ่ายจึงมองรายได้ 1Q66 อาจไม่สูงขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า กอปรกับต้นทุนค่าไฟงวดนี้ที่สูงขึ้น กดดันต้นทุนสำหรับ Shop ตามห้างสรรพสินค้า คาดผลกำไรงวด 1Q66 อาจลดลง q-q และทรงตัว y-y