สรุปภาวะตลาด

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่อง ลบต่ำสุดถึงราว -20 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค มีแรงขายในหุ้น Big Cap. อย่างหุ้นกลุ่มพลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ ธนาคาร การเงิน เป็นต้น โดยนักลงทุนติดตาม PCE ของสหรัฐ ช่วงปลายสัปดาห์ ประกอบกับส่านักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปี 66 เหลือโต 3.6% จาก 3.8% ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,540.20 จุด -17.67 จุด -1.13% มูลค่าการซื้อขาย 46,216 ลบ. ต่างชาติ-1,710.93 ลบ. TFEX -10,918 สัญญา ตราสารหน้ี +4,414.48 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า ผู้โดยสารขาเข้าประเทศทั้งหมดจะต้องแสดงผลตรวจโรคโควิด-19 ด้วยวิธี ATK ที่เป็นลบภายในเวลา 48 ชั่วโมงก่อนขึ้นเครื่องบินจากเมืองต้นทาง ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. จากเดิมที่ต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 ด้วย PCR

+ กรมศุลกากรเปิดเผยผลงานครึ่งแรกปีงบประมาณ 2566 จัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น 6.73 หมื่นล้านบาท แตะ 1.42 หมื่นล้านบาท +26.9%YoY

+ สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 9.6%MoM สู่ระดับ 683,000 ยูนิตในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน จากระดับ 623,000 ยูนิตในเดือนก.พ.

+ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SME (SME Sentiment Index : SMESI) ประจำเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 54.9 เพิ่มขึ้นจากระดับ 54.4 จากภาคการผลิตเป็นสำคัญ รวมถึงภาคการบริการ และภาคธุรกิจการเกษตร ส่วนภาคการค้าแม้ค่าดัชนีลดลงแต่เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัว

ปัจจัยลบ-

– ดัชนีดาวโจนส์ปิด ร่วงลง 344.57 จุด หรือ -1.02% กังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวห ลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่รายงานผลประกอบการที่อ่อนแอ และกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพในภาคธนาคาร หลังมีรายงานว่าลูกค้าแห่ถอนเงินจำนวนมากออกจากธนาคาร เฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์

– สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 1.69 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 77.07 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดถูกกดดัน จากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจชะลอตัว, การแข็งค่าของดอลลาร์ และความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายแห่ง

– รายงานของ Conference Board ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 101.3 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 104.0 ในเดือนมี.ค.

– อังกฤษประกาศแผนการที่จะออกกฎหมายใหม่เพื่อจำกัดอำนาจของบรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เช่น กูเกิล เฟซบุ๊ก และอะเมซอน ในการควบคุมและลดทอนการแข่งขันในตลาดดิจิทัล

– ตลท.เผยวัยเกษียณคนไทยเปราะบาง เกือบครึ่งไม่มีเงินออม เลี้ยงชีพวัยชรา ส่วนที่มีเงินออมเกือบ 42% มีต่ำกว่า 50,000 บาท อีกทั้งแบกปัญหามีหนี้สินสะสมสูง

– สศค.ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 66 ใหม่ เหลือ 3.6% จาก 3.8% เป็นผลจากภาคส่งออกติดลบ 0.5% ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องฟื้นตัวขึ้น เพิ่มคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยจาก 27.5 ล้านคน เป็น 29.5 ล้านคน ขยายตัว 164.6% จากปีก่อนหน้า

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรงยังกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบการเคลื่อนไหวในวันน้ีที่ 1,530-1,550 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : TKS SIRI PR9 SC STEC STPI
  • จำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น : AOT BAFS AAV BA MINT CENTEL ERW
  • หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL COM7 CPALL
  • อมิครอนสายพันธุ์ XBB.1.16 ระบาด : BCH CHG VIBHA EKH

หุ้นรายงานพิเศษ

MGC – บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน)

SET / AUTO (ราคา IPO 7.95 บาท) ราคาเหมาะสม consensus 12.30-13.40 บาท

  • MGC ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจอย่างครบวงจรในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยธุรกิจหลักของบริษัทฯ แบ่งเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.) กลุ่มธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ (78.7% ของรายได้รวม) 2.) กลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ (14.89% ของรายได้รวม) และ 3.) กลุ่มธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์และคนขับ นอกจากนี้ (5.9% ของรายได้รวม) บริษัทฯ ยังมีกลุ่มธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) บริการบริหารจัดการ (Shared Service) บริการทางการเงินสำหรับยานยนต์ นายหน้าประกันภัย และบริการทำความสะอาดและเคลือบสีรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจสนับสนุนและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบธุรกิจหลักของบริษัท (0.2%ของรายได้รวม)
  • บริษัทมีรายได้ปี 63-65 เท่ากับ 20,275 ลบ. 21,350 ลบ. และ 23,076 ลบ. ตามลำดับ และรายงานผลประกอบการ ปี 62- 65 มีกำไรสุทธิที่ 189 ลบ. 296 ลบ. และ 596 ลบ. ตามลำดับ สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายและบริการและอัตรากำไรขั้นต้นตามลำดับ โดยอัตรากำไรขั้นต้นปี 65 อยู่ที่ 10.0% เพิ่มขึ้นจาก 8.4% ในปี 64 มีสาเหตุหลักมาจาก (1) อุปทานที่จํากัดของรถยนต์ยี่ห้อ BMW ในปี 2565 ซึ่งส่งผลให้การแข่งขันเชิงราคาในตลาดลดลง (2) การจําหน่ายรถยนต์ BMW Special Lot ที่ใช้ในงานประชุม APEC ซึ่งมีอัตรากำไรค่อนข้างดี และ (3) การให้บริการเช่ารถยนต์ระยะสั้นของบริษัท MCR ที่เพิ่มขึ้นตามธุรกิจท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าการให้บริการเช่ารถยนต์ระยะยาว
  • จำนวนหุ้น IPO ไม่เกิน 280.0 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 25.0% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น โดย ราคา IPO คิดเป็น historical P/E ที่ประมาณ 14.72 เท่า คิดเทียบกับ P/E กลุ่ม SET-Auto 12.4x และ SET-Service 32.7x ได้ค่าเฉลี่ยราว 22.5x 1) ลงทุนในบริษัท Alpha X และ/หรือชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินสำหรับ การลงทุนในบริษัท Alpha X 2) ชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน เพื่อใช้ซื้อหุ้นบริษัท MMS จากบริษัท MMI 3) ชำระคืนหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินของบริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อย 4 เป็นเงินทุนหมุนเวียน

หุ้นมีข่าว

(+) MINT (Bloomberg consensus 40.00 บาท) ถึงเวลาเข้าไฮซีซันยุโรป ชี้สถิติเมษายนและไตรมาสต่อไปดี หลังพ้นโลว์ซีซันไตรมาส 1 มองอัตราเข้าพักยุโรปขยับขึ้นแตะ 70-75% จากไตรมาสแรกที่ 60% ร้านอาหารยอดขายสงกรานต์ทำสถิติสูงกว่าก่อนเกิดโควิดแล้ว มั่นใจผลงานจากนี้เติบโตแข็งแกร่งถึงสิ้นปี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SCGP (Bloomberg consensus 56.00 บาท) มั่นใจโตต่อไตรมาส 2 ชูดีมานด์จีนจะเพิ่ม ท่องเที่ยวสดใส ควักงบ 1.8 หมื่นล้านบาท ลุยซื้อกิจการต่อเนื่อง-เสริมแกร่งระยะยาว ล่าสุดฮุบกิจการบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษแข็งแบบพับได้ในเวียดนาม ร่วม SFLEX หวังต่อยอดธุรกิจเพิ่ม คาดเสร็จสิ้นช่วงไตรมาส 3 นี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) LEO (Bloomberg consensus 10.60 บาท) ผนึกกำลังพันธมิตรประเทศจีน ร่วมลงทุนถือหุ้น LSCC สัดส่วน 40% จัดหาสินค้าผลไม้และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของไทย ส่งออกไปยังประเทศจีน ฟากผู้บริหารมั่นใจค่อยอดธุรกิจสร้างรายได้เพิ่ม ตั้งเป้ายอดขาย LSSC ในปี 2566 แตะระดับ 300-400 ล้านบาท พร้อมจัดตั้งบริษัทย่อยในสิงคโปร์ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BYD (Bloomberg consensus – บาท) รายได้ธุรกิจหลักทรัพย์ ปี 2566 โตเท่าตัว เดินหน้าขยายบริการใหม่พ่อยอด IPO 3-5 ดีล ส่วนธุรกิจอีวีคาดรับรถบัสไฟฟ้า ถึงระดับ 3-3.2 พันคัน เพิ่มจากเป้าหมายเดิม ลุยขยายเน็ตเวิร์ก โอกาสสร้างรายได้จากคาร์บอนเครดิตมากกว่าเดิม แย้มไตรมาส 1/2566 รับรถแล้ว 450 คัน ปรับโครงสร้างเป็นโฮลดิ้งตามแผน เสร็จสิ้นปี 2566 (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ 

  • 26 เม.ย. กระทรวงพาณิชย์แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ การค้าชายแดน และการค้าผ่านแดน
  • สัปดาห์ที่ 4 สํานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
  • 28 เม.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
  • 3 พ.ค. กระทรวงพาณิชย์แถลงข่าว “ดัชนีเศรษฐกิจค้า”
  • 14 พ.ค. เลือกตั้ง
  • 31 พ.ค. กําหนดประชุมกนง.ครั้งที่ 3/2566

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 26 เม.ย. สหรัฐ รายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน มี.ค. สต็อกน้ามันรายสัปดาห์จากสํานักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
  • 27 เม.ย. อียู รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย.
    • สหรัฐ รายงานจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) 1Q66 (ประมาณการเบื้องต้น) ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนมี.ค.
  • 28 เม.ย. อียู รายงาน ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) 1Q66 (ประมาณการเบื้องต้น)
    • สหรัฐ รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
  • 29 เม.ย. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการ เดือนเม.ย.จากสํานักงานสถิติแห่งชาติ (NBS)
  • 1 พ.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนเม.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมี.ค. ดัชนีภาคการผลิต เดือนเม.ย.
- Advertisement -