รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนีฯ Sideways Down
Market wrap & Outlook
วานนี้ดัชนีดิ่งผิดคาด กดดันโดยกลุ่มใหญ่ทั้งธนาคาร KBANK BBL SCB TISCO พลังงาน-ปิโตรฯ BANPU EA OR IVL และที่ Panic sell หุ้นตระกูลเจ VGI JMART JMT SINGER SGC PRTR ส่งผลต่อไปยังหุ้นกลาง-เล็กหลาย บจ. KEX DITTO MENA DPAINT ITTHI TH TQM ส่วนหุ้นบวกสวน เช่น CPALL BDMS BH PTTEP
วันนี้คาดดัชนีฯ Sideways Down ตลาดหุ้นไทยรอบนี้ลงผิดคาด วันนี้เราแนะนำ Wait and see รอดูสถานการณ์ตลาดไปก่อน แม้ว่าปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคดูจะไม่มีเรื่องใหม่ ส่วนพื้นฐานหุ้นในประเทศก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในเชิงที่แย่ลง เมื่อพิจารณาจากผลการดำเนินงานกลุ่มธนาคารที่ประกาศไปแล้ว บวกกับ งบ Non-Bank ที่กำลังทยอยประกาศงบ 1Q/66
แต่เราไม่แน่ใจ กับเรื่องสภาพคล่องช่วงนี้ที่พบราคาหุ้นรายตัวลงแรงผิดปกติ ด้วยเหตุผลที่คล้ายกับลักษณะการใช้ อัตราทดในการเก็งกำไรผ่านเครื่องมือทางการเงินต่างๆ เวลาที่ราคาหุ้นลงแรงต่ำกว่า LTV หรือ หลักประกัน อาจส่งผลต่อการเรียกหลักประกันเพิ่มหรือ บังคับขายหุ้น และการเร่งตัวของสัญญาณการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ แม้ว่าเราเคยมองว่าตลาดได้ผ่านช่วงแบบนี้ไปแล้วเมื่อ 1-2 เดือนก่อน และรอบนี้ไม่ควรจะหนักเหมือนรอบที่แล้ว เพราะผ่านการล้างสถาะไปแล้วระดับหนึ่งก็ตาม…
What to watch
บริษัทที่จะประกาศผลประกอบการสัปดาห์นี้ วันนี้ DELTA SCC พฤหัสฯ BH PTTEP และสัปดาห์หน้า GLOBAL TFM TU
นักลงทุนจับตาตัวเลข US Core PCE เป็น Indicator สุดท้าย ที่จะประกาศศุกร์นี้ (ตลาดคาดบวก 0.3% MoM) ก่อนการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า (2-3 พ.ค.)
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 90.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% และให้น้ำหนักเพียง 9.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00% อย่างไรก็ตาม นักลงทุนราว 60-70% ก็ประเมินว่าเฟดจะเริ่มคงดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือน มิ.ย.-ก.ค. ซึ่งทำให้ภาพการประชุมในรอบ พ.ค. นี้ เสมือนเป็นปลายทางหรือป้ายสุดท้าย ของยุคดอกเบี้ยขาขึ้น
สัญญาณ ‘หุ้นกู้ผิดนัด’ เร่งตัวจับตา ‘STARK-ALL’ ส่อมีปัญหาเพิ่ม สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย จับสัญญาณหุ้นกู้มีปัญหา “เร่งตัว” ล่าสุด “STARK-ALL” เสี่ยงผิดนัดชำระรวมกันราว 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่ยอดผิดนัดคงค้างไตรมาสแรกปี’66 อยู่ที่ระดับ 1 แสนล้าน จับตา “STARK” ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 28 เม.ย.นี้ ชี้ชะตา ขณะที่ “กรุงไทย” หวั่น “STARK” ผิดนัด-ผลกระทบเทียบชั้น “การบินไทย” แนะ ก.ล.ต. ออกมาตรการดูแลเพิ่มเติม
หุ้นแนะนำวันนี้ : Wait and see
Global Investing Brief: Microsoft Alphabet ประเดิมงบหุ้นเทคฯ สวย
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- เมื่อคืนนี้ 3 ดัชนีหลักปรับลง โดย DJIA -1.0% S&P 500 -1.6% และ Nasdaq -2.0% กดดันจาก Intel (INTC) -2.6% Microsoft (MSFT) -2.3% Caterpillar (CAT) -2.1% หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 101.3 ในเดือนเม.ย. 66 จาก 104 ในเดือนก่อน สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความกังวลต่อภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่สหรัฐฯ จะเผย GDP ไตรมาส 1 ในวันที่ 27 เม.ย. 66 โดยคาดการณ์จาก Bloomberg cons. เผยจะโต 1.8%QoQ ชะลอลงจากไตรมาส 4 ที่ขยายตัว 2.6%QoQ
- Microsoft (MSFT) เผยงบเดือนม.ค.-มี.ค. 66 (F3Q66) ดีกว่าตลาดคาด รายได้โต 7%YoY สู่ $52.9bn และกำไรโต 9%YoY แตะ $18.3bn หนุนโดยธุรกิจคลาวด์ที่โต 22%YoY ขณะที่บริษัทมีแผนลงทุนในระบบคลาวด์เพื่อรองรับการใช้งาน AI ที่เร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง ด้าน Alphabet (GOOGL) เผยรายได้ 1Q66 โต 3%YoY แตะ $69.8bn ดีกว่าตลาดคาด หลังรายได้โฆษณาฟื้นตัว โดยหดตัว 0.2%YoY จากหดตัว 4%YoY ใน 4Q65 และธุรกิจ Google Cloud เผยกำไรเป็นครั้งแรกที่ $191mn อีกทั้งบริษัทมีแผนที่จะลงทุนพัฒนาแชทบอท AI ต่อเนื่องเช่นกัน เราจึงยังมีมุมมองบวกต่อหุ้นเทคฯ ทั้ง 2 ตัว ที่มีแนวโน้มได้รับอานิสงส์จาก AI ในระยะยาว ด้าน Bloomberg cons. ให้ TP MSFT ที่ $305.84 และ GOOGL ที่ $125.79
ตลาดหุ้นฮ่องกง
- วานนี้ดัชนีฮั่งเส็งปรับลง 1.7% กดดันจากหุ้นเทคฯ Meituan (3690) -4.4% Baidu (9888) -3.7% JD.com (9618) -4.1 กังวลต่อปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ที่ปะทุขึ้นอีกครั้ง จากการที่ไบเดน มีแผนที่จะลงนามคำสั่งพิเศษจำกัดการลงทุนของสหรัฐฯ ในประเทศจีนเพิ่มเติมเมื่อ 20 เม.ย. 66 โดยเพ่งเล็งไปที่การลงทุนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI และชิป โดย Bloomberg คาดว่าประเด็นดังกล่าวจะเริ่มชัดเจนขึ้นในการประชุม G7 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 16 พ.ค. 66 ทั้งนี้เรามองว่าจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นฮ่องกงในระยะสั้น แต่ยังคงมองบวกต่อภาพทั้งปีนี้ที่ตลาดจะฟื้นตามภาพรวมเศรษฐกิจจีน ขณะที่ Morgan Stanley คาดว่า GDP จีนปี 66 อาจโต 5.7%YoY
- HKEX (388) จะเผยงบ 1Q66 ในวันนี้ โดยรายได้มีแนวโน้มโต 14%YoY สู่ HKD5.2bn ฟื้นตัวต่อเนื่องจาก 4Q65 ที่โต 10%YoY อิงจาก Bloomberg cons. จากความเชื่อมั่นตลาดหุ้นที่ฟื้นตัวหนุนมูลค่าการซื้อขาย อย่างไรก็ดีเรามองว่ามูลค่าการ IPO อาจยังไม่ได้ฟื้นเด่นในไตรมาสนี้ หลังมีจำนวนบริษัทเข้าจดทะเบียนราว 18 แห่งในไตรมาส 1 ขณะที่ค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่เฉลี่ยไตรมาสละ 30 บริษัท ด้าน Bloomberg cons. ให้ TP ที่ HKD395.01
ตลาดหุ้นเวียดนาม
- วานนี้ดัชนี VN ลบ 0.6% โดย MSN -2.7% GAS -1.2% VRE -1.6% หลังรายงานจาก Bloomberg เผยใน 1Q66 มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและขายโครงการอสังหาฯ กว่า 1,800 แห่ง ในเวียดนามปิดตัวลง เพิ่มขึ้น 61%YoY กดดันจากปัญหาด้านเงินทุน เช่น การเข้าถึงเงินกู้ การขายพันธบัตร เป็นต้น โดยเรายังคงมองว่าใน 1H66 ตลาดหุ้นเวียดนามยังมีแนวโน้มถูกกดดันจากภาคอสังหาฯ ที่ชะลอตัว และมองว่ามาตรการกระตุ้นของรัฐบาลอาจเริ่มเห็นผลในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งอาจทำให้หุ้นเวียดนามเคลื่อนไหวดีขึ้น
- MSN เผยแผนที่จะนำสินค้าหลักของบริษัท ได้แก่ ซอส Chinsu บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Omachi และ กาแฟ Vinacafe ตีตลาดต่างประเทศในปีนี้ โดยเรามองเป็นปัจจัยบวกต่อรายได้ ขณะที่บริษัทคาดรายได้จากต่างประเทศจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นแตะ 15% ในปี 70 ด้านคาดการณ์จาก Bloomberg cons. เผยรายได้ปี 66ของ MSN มีแนวโน้มโต 13%YoY สู่ VND85.8tn จากที่หดตัวใน 14%YoY ในปี 65 ด้าน TP อยู่ที่ VND105,933
หุ้นเด่นประจำวัน : Visa (V.US)
- Visa เผยงบเดือนม.ค.-มี.ค. 66 (F2Q66) ดีกว่าคาด รายได้โต 11%YoY แตะ $8.0bn และกำไรโต 14%YoY $4.4bn หลังยอดธุรกรรมรวมโต 10%YoY หนุนจากยอดธุรกรรมข้ามพรมแดนที่โตเด่น 31%YoY
- เรามองว่ารายได้ของ Visa ยังมีแนวโน้มโต 2 หลักต่อเนื่องในปีนี้ หลังคาดว่าค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมข้ามพรมแดน (35% ของรายได้) ยังมี upside จากการเปิดเมืองของจีนที่จะหนุนการบริโภคและการท่องเที่ยวฟื้น
