บล.บัวหลวง:
Home Product Center (HMPRO TB /HMPRO.BK)
HMPRO – กำไรไตรมาส 1/66 ใกล้เคียงกับที่เราคาด
กําไรใกล้เคียงกับที่เราคาด
HMPRO รายงานกําไรหลักไตรมาส 1/66 ที่ 1,611 ล้านบาท เติบโต 7% YoY ลดลง 3% QoQ (จากปัจจัยทางฤดูกาล) ซึ่งใกล้เคียงกับที่เราและตลาดคาด การเติบโต YoY หนุนมาจากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัว ทั้งนี้ กําไรไตรมาส 1/66 คิดเป็น 25% ของประมาณการกำไรปี 2566 ที่ 6,528 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับสัดส่วนเทียบกับกำาไรเต็มปีในอดีต
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
บริษัทรายงานยอดขายที่ 17,223 ล้านบาท สําหรับไตรมาส 1/66 เติบโต 9% YoY และ 1% QoQ โดยโครงการ “ช็อปช่วยชาติ” ช่วยหนุนให้ยอดขายต่อ สาขาเดิมปรับตัวขึ้น 6% สําหรับ HomePro ขณะที่สําหรับ MEGA HOME หนุนให้ทรงตัวได้ ในขณะที่ HomePro มาเลเซียเห็นยอดขายจากสาขาเติมโต 8% ทั้งนี้ HMPRO รายงานรายได้จากค่าเช่าและบริการไตรมาส 1/66 ที่ 477 ล้านบาท เติบโต 16% YoY และ 3% QoQ หนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่มากขึ้น และจำนวนลูกค้าที่ฟื้นตัวของ Market Village
อัตรากําไรขั้นต้นจากธุรกิจค้าปลีกอยู่ที่ 26.1% ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจาก 26% ในไตรมาส 1/65 (ทรงตัว QoQ) แม้ว่ายอดขายสินค้าเข้าส่แบรนด์ที่ให้อัตรากําไรสูงขยายตัวขึ้น (สินค้าเฮ้าส์แบรนด์คิดเป็น 20.7% ของยอดขายของ HomePro ในไตรมาส 1/66 ปรับตัวขึ้นจาก 20.4% ในไตรมาส 1/65) แต่ยอดขายของ MEGA HOME ซึ่งมีอัตรากำไรต่ำกว่า และมีการขยายสาขาเร่งตัวขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/66 โดยรวมลดลง นอกจากนี้ ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการเปิดสาขา MEGA HOME ใหม่สามแห่งในระหว่างไตรมาส และค่าไฟฟ้าต่อหน่วยที่สูงขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 11% YoY ดังนั้นอัตรากําไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 11.7% ลดลงจาก 11.9% ในไตรมาส 1/65 แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 11.6% ในไตรมาส 4/65 (เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง QoQ)
แนวโน้ม
ด้วยอากาศที่ร้อนมากและมลพิษทางอากาศ (หมอกควัน รวมถึง PM2.5 ที่มีความเข้มข้นสูงในบางพื้นที่ของประเทศไทย) ซึ่งน่าจะเร่งให้ผู้บริโภคซื้อแอร์ และเครื่องกรองอากาศมากขึ้น ดังนั้นเราจึงคาดว่า HMPRO จะรายงานกําไรที่เติบโต YoY และ QoQ สําหรับไตรมาส 2/66
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
เรายังคงประมาณการเดิมไม่เปลี่ยนแปลง คําแนะนํา ปัจจุบัน HMPRO ชื้อขายบนระดับ PER ปี 2566 ที่ 27.6 เท่า ต่ำกว่าระดับปกติช่วงก่อนโควิดที่ 30 เท่า ทั้งนี้เราคาดกำไรปี 2566 จะเติบโต 5% ซึ่งคงทําให้ PER น่าจะยังคงต่ำกว่าระดับปกติ