บล.ฟิลลิป:

SCGP: กำไรสุทธิออกมาตามคาด

ซื้อ TP’66: 65.00

กำไรสุทธิออกมาตามคาด แม้อุปสงค์ใน 1Q66 จะยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ แต่ทางฝ่ายคาดว่าอุปสงค์จะทยอยฟื้นตัวในช่วงปีเหลือของปีตามการฟื้นตัวของจีน นอกจากนี้ SCGP ยังคงเดินหน้าทำ M&P อย่างต่อเนื่อง และในปี 66 ได้วางงบลงทุนในส่วนนี้ได้ที่ 9 พันลบ. ทางฝ่ายยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” 

งบรวม

1Q66

4Q65

1Q65

% y-y

% q-q

กําไร

1,220

449

1,657

-26.4

171.5

EPS

0.28

0.10

0.39

-26.4

171.5

หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท

  • 1Q66 กำไร 1,220 ลบ. ตามคาด : กำไรสุทธิ 1Q66 ออกมาตามคาดอยู่ที่ 1,220 ลบ +171.5% q-q แต่ลดลง 26.4% y-y เนื่องจากการกลับมาเปิดประเทศของจีน และการบริโภคภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการขายของธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 0.97 ล้านต้น (+11.5%q-q แต่ -8.5%y-y) แต่ในขณะเดียวกันอุปสงค์ที่ยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ ประกอบกับผู้ผลิตในอุตฯ กลับมาดำเนินการผลิตในอัตราที่สูงขึ้น ส่งผลให้ใน 1Q66 SCGP ยังเผชิญกับแรงกดดันจากการแข่งขันด้านราคาขายอยู่ แต่ยังได้แรงหนุนจากต้นทุนวัตถุดิบ และค่าระวางเรือที่มีความผ่อนคลายมากขึ้น โดยราคา AOCC ใน 1Q66 อยู่ที่ 171 ดอลลาร์/ตัน เพิ่มขึ้น 4.9% q-q ตามอุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้น แต่ลดลง 38.9% y-y สำหรับธุรกิจเยื่อแม้จะมีปริมาณการขายที่ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 0.16 ล้านตัน จากเดิม 0.15 ล้านตัน ใน 4Q65 แต่ด้วยราคาขายที่อ่อนตัวลงอยู่ที่ 731 ดอลลาร์/ตัน (-13.6%q-q แต่ +9.1%y-y) ส่งผลให้ธุรกิจเยื่อมี EBITDA อยู่ที่ 856 ลบ. (-5.4% q-q แต่ +34.4% y-y)
  • ประกาศเข้าลงทุนใน Starprint Vietnam JSC (SPV): SCGP ร่วมกับ Starflex ประกาศเข้าลงทุนใน Starprint Vietnam JSC (SPV) ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษแข็งแบบพับได้ โดย SCGP จะถือหุ้นของ SPV ในสัดส่วน 70% ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งหมดราว 1,534 ลบ. และคาดว่าธุรกรรมจะเสร็จสิ้นในช่วง 3Q66 สำหรับผลการดำเนินงานของ SPV ในปี 2565 มีรายได้อยู่ที่ราว 1,480 ลบ. และมีกำไรสุทธิประมาณ 135 ลบ. ซึ่งทางฝ่ายมองว่าไม่ได้ส่งผลอย่างมีนัยต่อประมาณการในปี 2566
- Advertisement -