ผถห. SSP อนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้น-เงินสด ขึ้น XD วันที่ 3 พ.ค.-รับทรัพย์ 25 พ.ค.นี้ รุกขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable เป้า 3 ปีโตเท่าตัว

ผู้ถือหุ้น SSP ไฟเขียวอนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.0611111114 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 3 พ.ค.  และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 พ.ค.นี้ รวมทั้งปีจ่ายปันผล 0.3611111114 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลกว่า 4% ทั้งในส่วนของหุ้นปันผลและเงินสด บิ๊กบอส “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์”เตรียมลุยธุรกิจใหม่ สร้าง New S-curve ตั้งเป้าขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบในอีก 3 ปีโตเท่าตัว

 นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ในวันที่ 26 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.0611111114 บาท/หุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 3 พฤษภาคม 2566  กำหนด จ่ายเงินปันผลในวันที่ 25  พฤษภาคม 2566

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทฯได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท และเมื่อรวมกับปันผลสำหรับครึ่งปีหลังของปี 2565 อีกในอัตราหุ้นละ 0.0611111114 บาท/หุ้น กับการจ่ายหุ้นปันผลในอัตรา 10:1 ที่ราคาพาร์ 1 บาท หรือ 0.1 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินปันผลตลอดทั้งปีเท่ากับ 0.3611111114 บาท/หุ้น สำหรับผลการดำเนินงานปี 2565

ส่วนแนวโน้มผลดำเนินงานในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตต่ออย่างเนื่องเมื่อเทียบปีที่ผ่านมา และในช่วงปลายปี 2565 ได้จัดตั้งบริษัทลงทุน Sermsang Next Ventures เพื่อดำเนินธุรกิจใหม่ โดยเข้าไปลงทุนในธุรกิจที่จะเติบโต สนับสนุนผลงานโตก้าวกระโดดในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสเพื่อเข้าไปลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆในประเทศ ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน  ซึ่งจะทำให้พอร์ตกำลังผลิตเติบโตเท่าตัวในอีก 3 ปี ตามแผนที่วางไว้

โดยล่าสุดบริษัทฯ ชนะประมูลในโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT)  รวม 170.5 เมกะวัตต์ แบ่งออกเป็น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 7 โครงการ กำลังผลิตตามสัญญารวม 154.5 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม จำนวน 2 โครงการ กำลังผลิตตามสัญญารวม 16 เมกะวัตต์   ซึ่งมั่นใจว่าจากแผนการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ จะช่วยสนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องตามแผนงานที่วางไว้

อนึ่ง ผลการดำเนินงานในปี 2565 กลุ่มบริษัทมีการเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สามารถสร้างรายได้และกำไรสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งกิจการ โดยมีกำไรสุทธิ 1,302 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 443 ล้านบาท หรือ  51.5% จากงวดเดียวกันปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากการรับรู้กำไรพิเศษในไตรมาสที่ 2/2565 จากขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ฮิดากะ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีกำไร 348 ล้านบาท แต่หากไม่รวมรายการดังกล่าว SSP  มีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 1,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.4%

- Advertisement -