บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Delta Electronics (Thailand) (DELTA.BK/DELTA TB)*

ผลประกอบการ 1Q66: กําไรจากธุรกิจหลักต่ำกว่าที่คาด

Event

กำไรสุทธิของ DELTA ใน 1Q66 อยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท (+30% YoY, -12% QoQ) ต่ำกว่าประมาณการของเรา 12% และต่ำกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ในตลาด 6% แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรจากธุรกิจหลักใน 1Q66 จะอยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท (+54% YoY, -22% QoQ) ต่ำกว่าประมาณการของเรา 15% เพราะอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าที่คาดไว้ ทั้งนี้ กำไรจากธุรกิจหลักใน 1Q66 คิดเป็น 21% ของประมาณการ กําไรเต็มปีของเรา

Impact

ยอดขายยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ยอดขายของ DELTA ใน 1Q66 อยู่ที่ 3.23 หมื่นล้านบาท (+31% YoY, -7% QoQ) แต่หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ยอดขายใน 1Q66 จะอยู่ที่ประมาณ 940 ล้านดอลลาร์ฯ (+27% YoY, +0.1% QoQ) ซึ่งเป็นไปตามประมาณการของเรา ทั้งนี้ ยอดขายใน 1Q66 คิดเป็น 25% ของสมมติฐานยอดขายเต็มปีของเรา โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้น YoY มาจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ data center และรถยนต์ไฟฟ้า (Electric vehicle) ในขณะเดียวกัน ยอดขายที่ทรงตัว QoQ เป็นเพราะผลกระทบจากปัจจัยฤดูกาล

อัตรากําไรขั้นต้นลดลง

ถึงแม้เราจะคาดไว้แล้วว่าอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้จะลดลง แต่อัตรากำไรขั้นต้นที่ออกมาจริงยังต่ำกว่าที่เราคาดเอาไว้อีก โดยอัตรากำไรขั้นต้นใน 1Q66 อยู่ที่ 20.8% (-0.1ppts YoY, -3.7ppts QoQ) ต่ำกว่า ประมาณการของเรา 3.1ppts เนื่องจากสถานการณ์อุปทานที่ตึงตัวในส่วนของชิ้นส่วนที่สำคัญใน Power solution ของรถยนต์ไฟฟ้า ในขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่าย SG&A อยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท (+10% YoY, -16% QoQ) เนื่องจากค่าใช้จ่าย R&D ในยุโรป และอเมริกาเหนือ คิดเป็นสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายที่ 10% ใน 1Q66 (จาก 12% ใน 1Q65 และ 11.1% ใน 4Q65)

AGM อนุมัติให้ลดพาร์ โดยจะมีผลในวันที่ 28 เมษายน 2566

ในการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2566 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้ลดมูลค่าพาร์ของหุ้นสามัญลงจาก 1.00 บาทต่อหุ้น เหลือ 0.10 บาทต่อหุ้น โดยมูลค่าพาร์ใหม่ของ DELTA จะมีผลในวันที่ 28 เมษายน 2566

Valuation & action

เรายังคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 เอาไว้ที่ 590.00 บาท อิงจาก PER เท่าเดิมที่ 4 45.0X (ค่าเฉลี่ยในอดีต +0.5 S.D.) และยังคงคำแนะนำ “ขาย” DELTA

Risks

ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2566-67 ที่ 33.80 บาท/ดอลลาร์ฯ)

- Advertisement -