รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนีฯ Sideways

Market wrap & Outlook

สุดสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนี Sideways หุ้นกดดันตลาดยังคงเป็น DELTA และที่เหลือกลบผลกระทบกันเอง ฝั่งลบ เช่น PTTEP ITC CPN KBANK TRUE BDMS ฝั่งบวก เช่น PTT MAKRO CPALL AOT JMART GULF ฯลฯ

วันนี้คาดดัชนีฯ Sideways เนื่องจากสัปดาห์นี้จะมีวันทำการเพียง 2 วัน และเป็นช่วงค่อมระหว่างหยุดยาว ทำให้สภาพคล่องอาจน้อยกว่าปกติ อีกทั้งยังมีการขึ้น XD ในหุ้นหลายบริษัท แต่แรงขายก็น่าจะน้อยลงไปแล้ว ตลาดจึงน่าจะย่ำฐาน 1520-1540 ไปก่อน โดยกลยุทธ์ยังคงชอบหุ้นหุ้น Local play มากกว่า Global play และมองว่าปัจจัยการเมืองจะมีน้ำหนักเพิ่มเติม โดยสำหรับตลาดหุ้นจากสถิติการเลือกตั้งในอดีต ช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ เป็นจังหวะเหมาะสมในการโหลดหุ้นอิงการเลือกตั้ง เพราะอาจจะเห็นการปล่อยหมัดเด็ดนโยบายออกมาส่งท้าย

What to watch

XD Effect: ช่วง 2-9 พ.ค. มีหุ้นขึ้นเครื่องหมาย XD จำนวนมาก (รายละเอียดในรายงานหัวข้อ “ปฏิทินหุ้น”)

ประเด็นการเมืองในประเทศจะมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวหุ้นรายกลุ่ม-ตัว โดยเฉพาะการปล่อยหมัดเด็ดนโยบายหาเสียงโค้งสุดท้ายของพรรคการเมืองต่างๆ

การประชุมเฟดในสัปดาห์นี้ (2-3 พ.ค.) นักลงทุนส่วนใหญ่ยังให้น้ำหนักการปรับเพิ่มดอกเบี้ย 0.25%

บริษัทที่จะประกาศผลประกอบการสัปดาห์นี้ GLOBAL (In line) TFM TU และต้นสัปดาห์หน้า จันทร์ ADVANC GPSC PSL MINT DOHOME MAKRO อังคาร เช่น AP SPALI KCE IRPC MEB

เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ตกลงเข้าซื้อกิจการธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ เป็นที่เรียบร้อย ภายใต้ข้อตกลงครั้งนี้ เจพีมอร์แกนได้เข้าครอบครองเงินฝาก 9.2 หมื่นล้านดอลลาร์ของเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ รวมถึงเงินกู้อีก 1.73 แสนล้านดอลลาร์ และหลักทรัพย์ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

หุ้นแนะนำวันนี้

CPALL หากวันนี้ราคาย่อตัวจาก XD (ปันผล 0.75 บาท) เป็นโอกาสสะสมเพิ่ม เพราะเป็นหนึ่งในตัวแทนหุ้นคอมเมิร์ชที่มักจะปรับตัวขึ้นก่อนจนถึงหลังเลือกตั้ง

CPN คาดกำไรหลัก 1Q23 เติบโต 32% YoY และ 9% QoQ มากกว่าที่เคยคาดไว้เดิมและที่ตลาดคาดราว 6%

Global Investing Brief: Fed เปิดฉากการประชุมคืนนี้ ลุ้นงบ SBUX แกร่ง

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

  • เมื่อคืนนี้ 3 ดัชนีหลักปรับลง โดย DJIA -0.1% S&P 500 ทรงตัวในแดนลบ และ Nasdaq -0.1% พักตัวจากวันศุกร์ ที่ดัชนี DJIA +0.8% S&P 500 +0.8% และ Nasdaq +0.7% กดดันจากความวิตกกังวลต่อวิกฤตในภาคธนาคาร หลัง JPMorgan ได้เข้าซื้อธนาคาร First Republic ที่ประสบปัญหาสภาพคล่อง ซึ่งการเข้าซื้ออาจช่วยบรรเทาวิกฤตได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตลักษณะนี้ในอนาคต ขณะที่วันนี้ Fed จะเริ่มการประชุมประจำเดือน พ.ค. และจะจัดถึงวันที่ 3 พ.ค. 66 โดยตลาดคาดว่า Fed มีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.25% หลังให้น้ำหนักราว 86% ที่อัตราดังกล่าวอิงจาก FedWatch Tool
  • Intel (INTC) เผยรายได้ 1Q66 ลดลง 36%YoY สู่ $11.7bn ลดลงน้อยกว่าตลาดคาด และขาดทุน $2.8bn ขาดทุนน้อยกว่าตลาดคาดเช่นกัน หลังบริษัทยังลงทุนเพื่อพลิกธุรกิจสู่ผู้รับจ้างผลิตชิปต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าที่จะเริ่มการผลิตได้ภายในปี 69 อีกทั้งความต้องการใช้คอมพิวเตอร์ (PC) ยังลดลงทั่วโลกใน 1Q66 จึงทำให้ยอดขายชิป PC (49% ของรายได้) ลดลง 38%YoY ขณะที่ใน 2Q66 บริษัทคาดรายได้จะลดลง 22%YoY สู่ $12bn แต่ยังมากกว่าที่ตลาดคาที่ $11.7bn และคาดว่าการปลดพนักงานเมื่อ ก.พ. 66 จะช่วยลดต้นทุนได้ราว $3bn ในปีนี้ ด้าน TP จาก Bloomberg cons. อยู่ที่ $31.90

ตลาดหุ้นฮ่องกง

  • ตลาดหุ้นฮ่องกงหยุดทำการวานนี้เนื่องในวันแรงงาน (Labor Day) และจะกลับมาเปิดทำการในวันนี้ ขณะที่เมื่อวันศุกร์ดัชนีฮั่งเส็งบวกต่อ 0.3% นำโดย NetEase (9999) +2.1% Sunny Optical (2382) +1.2% ทั้งนี้ในวันศุกร์ที่ผ่านมาจีนได้จัดการประชุมโปลิตบูโร โดยรัฐบาลตั้งเป้าที่จะส่งเสริมการบริโภคผ่านการสร้างงานเพื่อหนุนรายได้ประชากรเพิ่มขึ้น ซึ่งเรามองว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตได้แบบมีเสถียรภาพ อีกทั้งรัฐบาลยังได้ย้ำที่จะสนับสนุนภาคเอกชน โดยเฉพาะบริษัทเทคฯ ขนาดใหญ่ ในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เราจึงมองเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นเทคฯ ฮ่องกง เช่น Alibaba (9988) Baidu (9888) Tencent (700) เป็นต้น
  • Nio (9866) เผยยอดส่งมองรถเดือน เม.ย. 66 โต 31%YoY แตะ 6,658 คัน ส่งผลให้มียอดส่งมอบรวม 37,699 คัน นับจากต้นปี หรือโต 22%YoY ขณะที่บริษัทจะเผยงบ 1Q66 ในเดือน มิ.ย. 66 โดยคาดการณ์จาก Bloomberg cons. เผยรายได้มีแนวโน้มโต 21%YoY แตะ RMB12bn และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะฟื้นมาแตะ 7% จากราว 4% ใน 4Q65 จากราคาแบตเตอรี่ลิเธียมที่ลดลง ด้าน TP อยู่ที่ HKD95.10

ตลาดหุ้นเวียดนาม

  • ตลาดหุ้นเวียดนามหยุดทำการตั้งแต่วันที่ 1-3 พ.ค. 66 เนื่องในวันแรงงาน วันหยุดชดเชยวันชัย (Victory Day Observed) และวันแรงงานสากล (International Labor Day) ตามลำดับ ขณะที่เมื่อวันศุกร์ดัชนี VN บวก 0.9% นำโดยกลุ่ม Vingroup ได้แก่ VIC +3.2% VHM +4.2% และ VRE +2.6% หลังบริษัทแม่ VIC ตั้งเป้ารายได้ปี 66 โตเด่น 87%YoY แตะ VND190tn มากกว่าที่ตลาดคาด หนุนจากการเปิดเมืองที่เป็นปัจจัยบวกต่อคนเดินห้างฯ Vincom และการเปิดตัวโครงการอสังหาฯ แห่งใหม่ในปีนี้
  • FRT เผยงบ 1Q66 รายได้ทรงตัวที่ VND7.8tn และขาดทุน VND5bn หลังร้านค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ FPT Shop ขาดทุน VND66bn กดดันจากความต้องการที่ชะลอตัวจึงทำให้ต้องมีการจัดโปรโมชั่นลดราคา อย่างไรก็ดีร้านขายยา Long Chau เผยรายได้โตเด่น 52%YoY และอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นแตะ 1.9% จากราว 1% ในปีก่อน โดยเรายังคงมองบวกต่อธุรกิจร้านขายยาของบริษัท เนื่องจากมีแผนที่จะขยายสาขาต่อเนื่องในปีนี้ โดยตั้งเป้าแตะ 1,400 แห่ง จากปัจจุบันที่ 1,056 แห่ง ด้าน Bloomberg cons. ให้ TP ที่ VND77,370

หุ้นเด่นประจำวัน : Starbucks (SBUX.US)

  • Starbucks จะเผยงบเดือน ม.ค.-มี.ค. 66 (F2Q66) ในวันนี้ โดยรายได้มีแนวโน้มโต 2 หลัก 10%YoY แตะ $8.4bn หลังจากโตชะลอตัวใน 2 ไตรมาสก่อน และกำไรโต 6%YoY สู่ $753.3mn อิงจาก Bloomberg cons.
  • เรามองว่ายอดสาขาเดิมในจีนมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากหดตัวในปี 65 หลังร้าน Starbucks ในจีนได้กลับมาเปิดทำการแบบไม่มีการใช้มาตรการควบคุมโควิด ขณะที่บริษัทคาดว่าจะฟื้นกลับมาโตใน F3Q66 เป็นต้นไป
- Advertisement -