คาดตลาดหุ้นรีบาวน์สัปดาห์หน้า
Market Update
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลงมากกว่า 1% ขณะที่ราคาน้ำมันลดลงกว่า 5% ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐฯ ในขณะที่ตลาดรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะรู้ผลในวันพรุ่งนี้
Market Outlook
แม้ว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ จะยังดีกว่าคาด แต่นักลงทุนกลับหันมาสนในเรื่องปัญหาของภาคธนาคารสหรัฐฯ เพราะเกรงว่าการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ จะกระทบต่อผลการดำเนินงานของภาคธนาคารในอนาคต เนื่องจากดอกเบี้ยที่ทรงตัวในระดับสูงจะทำให้การปล่อยสินเชื่อเป็นไปได้ยาก และผู้ฝากเงินอาจขาดความมั่นใจและกลับมาถอนเงินฝากอีกครั้ง นอกจากนี้ ตลาดเริ่มกังวลภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังจากตัวเลขตำแหน่งเปิดรับสมัครงาน (Job Opening) เดือน มี.ค. ออกมาต่ำกว่าคาดและต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี ทั้งนี้ ราคาน้ำมันได้ตอบสนองต่อความกังวลดังกล่าว ด้วยการปรับลดลงถึง 5% เราเชื่อว่าปัญหาการหดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และปัญหาภาคธนาคารสหรัฐฯ จะยังคงกดดันตลาดหุ้นให้อยู่ในช่วงขาลงต่อในครึ่งปีหลัง หรือจนกว่าเราจะเห็นธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มลดลงดอกเบี้ยลงมา
อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นตลาดรับรู้ประเด็นลบเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ไปมากพอควร เราเชื่อว่าผู้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะไม่ออกความเห็นในเชิงรุก (Hawkish) เกินไป เนื่องจากเศรษฐกิจที่เริ่มเห็นการชะลอตัวและยังมีปัญหาภาคธนาคารเข้ามาอีก จึงมีความเป็นไปได้ว่าตลาดหุ้นจะมีการรีบาวน์ขึ้น หลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ จึงแนะนำให้นักลงทุนสะสมหุ้นเพื่อเก็งกำไรในระยะสั้น โดยตลาดหุ้นไทยกลุ่มที่คาดว่าจะนำตลาดต่อไปคือหุ้นในกลุ่ม Domestic Play ขนาดใหญ่ ทั้งนี้การที่ราคาน้ำมันปรับลดลงมา จะยิ่งส่งผลบวกต่อการบริโภคในประเทศ เสริมจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยช่วงก่อนเลือกตั้ง แต่ด้วยตลาดหุ้นไทยจะเจะเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว ทำให้วันนี้มีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1520 – 1530
เชิงกลยุทธ์ แนะหุ้นกลุ่มธนาคาร (BBL KBANK SCB TISCO) ค้าปลีก (CPALL BJC HMPRO) ร้านอาหาร (M) ศูนย์การค้า (CPN) สินค้า IT (COM7 SYNEX) ท่องเที่ยว (AOT MINT SHR) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC RATCH) ขณะที่ระมัดระวังการลงทุนในหุ้นกลุ่ม External Play เนื่องจากได้รับผลการะทบจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
AOT (ซื้อ / ราคาพื้นฐาน 78.00 บาท)
คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว โดยคาดกำไรงวดบัญชีปี 2023 จะกลับมามีกำไร 10,834 ล้านบาท จากที่ขาดทุนในปีก่อนหน้า และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 27,754 ล้านบาท ในงวดบัญชีปีถัดไป เราคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2024 จะกลับเข้าสู่ช่วงก่อนโควิดที่ 40 ล้านคน
CPN (ซื้อ / ราคาพื้นฐาน 83.00 บาท)
เราคาดว่ากําไร 1Q23 จะปรับเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ โดยได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว ทำให้จำนวนผู้เข้าศูนย์มากขึ้น และ CPN สามารถปรับส่วนลดให้ผู้เช่าน้อยลงได้ ขณะที่รายได้ส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านร้านอาหารและโรงแรมก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน