จะยืนได้ไหม ยืนได้หรือเปล่า?

วันนี้คาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,525 / 1,520 แนวต้าน 1,545 / 1,550 Sentiment จากภายนอกไม่สู้ดี รวมทั้งราคาน้ำมันปรับตัวลงแรง กดดันตลาดได้ต่อ สัปดาห์หน้าให้ความสนใจกับการเลือกตั้งเป็นสำคัญ

Our View? “จะยืนได้ไหม ยืนได้หรือเปล่า?”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,525 / 1,520 และแนวต้านที่บริเวณ 1,545 / 1,550 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงลบจากตลาดต่างประเทศ จากการกลับมากังวลวิกฤตการณ์ธนาคารในสหรัฐ แม้ JPMorgan Chase จะสามารถบรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อ First Republic ในการประมูลของรัฐบาลสหรัฐไป แล้วก็ตาม สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วเกินไปของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในการเร่งขึ้นดอกเบี้ยในช่วงก่อนหน้า ขณะที่คาดการณ์ผลการประชุม FOMC ในค่ำคืนนี้ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 5.25% โดยจุดที่เราให้ความสำคัญที่สุดคือ ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED ว่าจะส่งสัญญาณถึงการใช้นโยบายทางการเงินของ FED ในระยะถัดไปอย่างไร คาดจะส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้าง ล่าสุดเริ่มมีบางสำนักอาทิ Citi Group ออกมาคาดการณ์ว่า FED ยังมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ต่อสูงเกินกว่าระดับ 5.25% ซึ่งเราคาดว่าจะกระตุ้นความกังวลการเกิดเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 4Q’66 เพิ่มขึ้น ขณะที่เรายังคง คาด FED จะคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวยาวไปจนถึง 4Q66 เพื่อรอประเมินผลกระทบของการใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับที่สูง และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย คาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้อยู่

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มิ.ย. เมื่อคืนนี้ปรับตัวลงแรง -4.00 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 71.66 ดอลลาร์/บาร์เรล -5.29% โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสเผชิญภาวะถดถอย จากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงต่อไป รวมทั้งคาดกังวลในการเกิด Government Shutdown หากวุฒิสภาสหรัฐไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐภายในสิ้นเดือนนี้ คาดจะกดดันทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน ซึ่งมีสัดส่วนเป็นน้ำหนักมากที่สุดของตลาดหุ้นไทยกดดันทิศทางตลาดได้ต่อ อย่างไรก็ดี เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี (PTTGC, IVL และ SCC) จากการที่ส่วนต่างปิโตรเคมี อาทิ Ethylene-Naphtha และ HDPE-Naphtha กว้างขึ้นต่อเนื่อง โดยสัปดาห์นี้ +10.2% WoW และ +15.1% Wow ตามลำดับ คาดจะหนุนหุ้นในกลุ่มดังกล่าวรีบาวด์ขึ้นได้ในระยะสั้น

สําหรับปัจจัยในประเทศ ยังคงคาดปริมาณการซื้อขายของตลาดจะเบาบางลง จากช่วงคาบวันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย อาจส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้างในระยะสั้น ทั้งนี้รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน มี.ค. ของธปท. ที่เปิดเผยออกมาแม้จะเห็นเศรษฐกิจไทยเดือน มี.ค. ชะลอตัวลงบ้างเล็กน้อย แต่ภาคการบริการยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการท่องเที่ยว ขณะที่การใช้จ่ายของรัฐบาลกลางขยายตัวจากทั้งรายจ่ายประจำ และรายจ่ายลงทุนคาดเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยได้ต่อ โดยเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารฯ โดยเฉพาะธนาคารขนาดกลาง-ใหญ่ (KBANK, SCB, BBL, KTB และ TTB) จากการรายงานผลประกอบการ 1Q′66 เติบโตมากกว่าที่ตลาดคาด โดยเพิ่มขึ้น +45.19% QoQ และ +13.55% YoY รวมทั้งเรายังชอบหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, MAKRO และ BJC) เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และอยู่ในภาพการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง  รวมทั้งยังได้รับแรงหนุนจากการเลือกตั้งใหญ่เดือน พ.ค. และตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยยังดีต่อเนื่อง คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อราคาได้อยู่ ขณะที่สัปดาห์หน้าเราคาดตลาดหุ้นไทยจะให้น้ำหนักต่อการเลือกตั้งใหญ่ของไทยเป็นสำคัญ คาดจะส่งผลตลาดแกว่งตัวในกรอบจำกัดเพื่อรอดูผลการเลือกตั้งหลังวันที่ 14 พ.ค.

ธีมการลงทุน “Selective Play” 

หุ้นแนะนำวันนี้ “PTTGC”

  • Spread ปิโตรเคมีทั้งทางฝั่ง Olefins ยังกว้างขึ้นต่อเนื่อง หนุนราคาฟื้นตัวขึ้นได้
  • ทางเทคนิค ลงมาอยู่โซนล่างแนวรับสำคัญ ระยะสั้นเน้นเล่นรีบาวด์
  • กลยุทธ์ เล่นรีบาวด์ แนวรับ 40.50 / 40.00 Target 43.25 / 44.50 Stop <39.75

     

- Advertisement -