บล.ทรีนีตี้:
เมืองไทย แคปปิตอล – MTC
ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 43 บาท / Upside/Downside +27% / Median Consensus 37.50 บาท
คาดกําไร 1Q66 อ่อนตัวทั้ง YoY และ QoQ จากการตั้งสำรอง
- แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ให้ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 43 บาท (อิงวิธี Gordon Growth Model ด้วย PBV ที่ 2.8 เท่า)
- คาด MTC รายงานกำไร 1Q66 ที่ 1,081 ล้านบาท -21.4% YoY, -4.5% QoQ โต YoY ลดลงจากการตั้งสำรองที่มากขึ้น แม้พอร์ตสินเชื่อยังขยายตัว YoY และ QoQ
- คาด NPL อยู่ที่ 3.0% (อยู่ที่ 1.65% ใน 1Q65 และ 2.91% ใน 4Q65) และคาดว่า coverage ratio อยู่ที่ 105% ทรงตัว QoQ
- คาดกำไรปี 2566 อยู่ที่ 5,093 ล้านบาท ทรงตัว YoY แม้ว่าพอร์ตสินเชื่อยังสามารถโตได้ในระดับ double digits แต่กำไรจะถูกกดดันจาก credit cost และ funding cost มอง NPL พีคช่วงไตรมาส 2-3 และจะกลับมาดีขึ้นในไตรมาส 4
Earning Preview
คาด MTC ประกาศกำไร 1Q66 ที่ 1,081 ล้านบาท -21.4% YoY, -4.5% QoQ
1) คาดพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 125,438 ล้านบาท +27.2% YoY, +4.0% QoQ ด้าน interest income คาดโตน้อยกว่าการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อจาก yield ที่ลดลงตามปัจจัยทางฤดูกาล โดยคาดว่า yield อยู่ที่ 17.8% (อยู่ที่ 18.00% ใน 1Q65 และ 18.2% ใน 4Q65)
2) คาด cost of fund อยู่ที่ 3.70% +9.0% YoY, +3.7% QoQ เพิ่มขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นตามนโยบายกนง.
3) คาด cost to income อยู่ที่ 45.0% -11.9% YoY, +0.41% QoQ เพิ่มขึ้น QoQ จากการขยายสาขาที่มากกว่าไตรมาสที่แล้ว รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านพนักงาน
4) คาด NPL อยู่ที่ 3.00% จาก 1.65% ใน 1Q65 และ 2.91% ใน 4Q65 ยังทรงตัว QoQ โดยเราคาดว่า NPL จะ peak ในไตรมาส 2-3
5) คาด credit cost อยู่ที่ 4.50% (อยู่ที่ 0.63% ใน 1Q65 และ 4.33% ใน 4Q65) และคาดว่า coverage ratio จะอยู่ที่ 105% (อยู่ที่ 113% ใน 1Q65 และ 105% ใน 4Q65)
2566 Outlook
คาดกำไรปี 2566 อยู่ที่ 5,093 ล้านบาท ทรงตัว YoY แม้ว่าพอร์ตสินเชื่อยังสามารถโตได้ในระดับ 20% ตามเป้าของผู้บริหาร แต่กำไรจะถูกกดดันจาก credit cost และ funding cost มอง NPL ฟิคช่วงไตรมาส 2 – 3 โดยคาดว่าจะอยู่ไม่เกิน 3.5% และจะกลับมาดีขึ้นในไตรมาส 4 ในปีนี้ผู้บริหารตั้งเป้าขยายสาขาทั้งหมด 600 สาขา (รวมสินปีที่ 7,268 สาขา) เพื่อเข้าถึงลูกค้าและเก็บหนี้ได้ดียิ่งขึ้น
ความเสี่ยง: ความเสี่ยงจากหนี้เสีย, เพดานสินเชื่อ, cost of fund ที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย และการที่ธนาคารพานิชย์โดดลงมาทำสินเชื่อรถแลกเงิน