บล.ฟิลลิป:
GULF: คาดกำไรสุทธิอ่อนตัว q-q
ซื้อ TP’66: 58.00
คาดกำไรสุทธิอ่อนตัว q-q เนื่องจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง แต่คาดว่าการดำเนินปกติยังคงแข็งแกร่ง และแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q66 ยังโตต่อ เนื่องจากการรับรู้รายได้ของโครงการ GPD ทางฝ่ายยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
งบรวม | 1Q66E | 4Q65 | 1Q65 | % y-y | % q-q |
กําไร | 3,864 | 5,407 | 3,395 | 13.8 | -28.5 |
EPS | 0.33 | 0.46 | 0.29 | 13.8 | -28.5 |
หมายเหตุ: กําไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- คาด 1Q66 กำไรสุทธิอ่อนตัว q-q แต่ฟื้น y-y: ทางฝ่ายคาดกำไรสุทธิ 1Q66 อยู่ที่ 3,864 ลบ. (-28.5% q-q, +13.8% y-y) โดยสาเหตุหลักที่ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิจะอ่อนตัวลง q-q เนื่องจากใน 4Q65 GULF มีการรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1,864 ลบ. ขณะที่คาดว่าในไตรมาสนี้จะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่เพียง 300 ลบ. ในส่วนของการดำเนินงานปกติ ทางฝ่ายคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น q-q เนื่องจากคาดว่าโรงไฟฟ้า GSRC จะมีปริมาณการขายไฟฟ้าสูงขึ้นมาอยู่ที่ราว 2,484 GWh (+30.4% q-q, +42.2% y-y) ตามปริมาณการเรียกไฟฟ้าที่สูงขึ้นของ EGAT และในส่วนของโรงไฟฟ้า SPP ที่มีการขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรม แม้จะได้รับผลกระทบจากราคาก๊าซธรรมชาติ (gas pool price) ที่ปรับตัวสูงขึ้นราว 4.7% q-q แต่คาดว่าผลกระทบดังกล่าวจะถูกชดเชยด้วยการปรับตัวขึ้นของค่า Ft สำหรับลูกค้าอุตสาหกรรมในงวด ม.ค.-เม.ย. 66 มาอยู่ที่ 154.92 สตางค์/kWh หรือคิดเป็น +65.8% q-q แต่ในส่วนของ SG&A ทางฝ่ายคาดว่ายังทรงตัวอยู่ในระดับสูง q-q เนื่องจากคาดว่าจะเริ่มมีการรับรู้ค่าใช้จ่ายของโรงไฟฟ้า GPD หน่วยที่ 1 ซึ่งมีการ COD ไปใน วันที่ 31 มี.ค. 66 เข้ามาบางส่วน