วันน้ีคาดตลาด “Sideway Up”
แนวรับ 1,550 / 1,540 แนวต้าน 1,570 / 1,580 ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวเก็งกำไรผลการเลือกตั้ง Valuation ไม่แพงลงมา แถว Fwd PE 15.0 เท่าก่อนหน้า
Our View? “แกว่งขึ้นต่อในกรอบจำกัด”
คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนว รับที่บริเวณ 1,550 / 1,540 และแนวต้านที่บริเวณ 1,570 / 1,580 เรายังคงให้น้ำหนักไปกับปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะคาดตลาดในสัปดาห์นี้จะติดตามผลการเลือกตั้งไทยในวันที่ 14 พ.ค. ขณะที่การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในช่วงก่อนหน้าปรับตัวลงมามากเกินไป โดยซื้อขายกันอยู่ที่ระดับ Forward PE ราว 15.0+/− เท่า โดยเป็นจุดต่ำสุดในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ระดับ 18.0 เท่า และอยู่ที่โชน -1.0 S.D. ทำให้เรามองว่าตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจในเชิง Valuation มากขึ้น ขณะที่เมื่อวานนี้เห็นแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่ม Domestic Play ตามที่เราคาดไว้ จากความน่าสนใจหลังจบการเลือกตั้งใหญ่ในสัปดาห์นี้ รวมทั้งที่ผลประกอบการ 1Q66 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด พร้อมทั้ง 2Q66 มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ อาทิ หุ้นในกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารขนาดกลาง-ใหญ่ (KBANK, SCB, BBL, KTB และ TTB) หุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, MAKRO และ BJC) ที่เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และอยู่ในภาพการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวในประเทศจากการบริโภคและการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ รวมทั้งยังเห็นแรงเก็งกำไรในหุ้นในกลุ่มการเงิน (SAWAD, MTC และ TIDLOR) คาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากการออกมาตรการพักชำระหนี้ต่างๆ หลังการเลือกตั้งเช่นกัน
สำหรับปัจจัยต่างประเทศเราคาดว่าตลาดจะรอดูการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐเดือน เม.ย. เพื่อประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อทั้ง ในฝั่งอุปสงค์และอุปทาน ซึ่งจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในระยะถัดไป อย่างไรก็ดี เราคาดว่าทั้ง CPI และ PPI สหรัฐในเดือน เม.ย. คาดจะยังอยู่ในระดับสูงได้ต่อคาด CPI ที่ระดับ 5.0% YoY และ PPI ที่ระดับ 2.5% YoY ซึ่งสะท้อนว่าเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง และทำให้ FED ไม่สามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ดี CME FED Watch Tools บ่งชี้ว่าปัจจุบันตลาดคาดการณ์ FED จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย. นี้เร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า จากการที่ตลาดบางส่วนคาดการณ์ว่าการที่ FED ใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับสูงในปัจจุบันจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงเร็วในระยะข้างหน้า คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้าง
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. เมื่อคืนนี้ยังคงรีบาวด์ขึ้นได้ดีปิดที่ระดับ 73.16 ดอลลาร์/บาร์เรล +182 ดอลลาร์ (+2.55%) โดยยังคงได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐเกิดภาวะ Hard Landing ซึ่งจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันในสหรัฐอ่อนแอ หลังสัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือน เม.ย. ออกมาอยู่ที่ระดับ 2.53 แสนตำแหน่ง ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ รวมทั้งสถานการณ์ไฟฟ้าในแคนาดาส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันในแคนาดาลดลงไปกว่า 1.85 แสน บาร์เรล/วัน คาดจะยังคงหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ ขณะที่เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี (PTTGC, IVL และ SCC) จากการที่ส่วนต่างปิโตรเคมี อาทิ Ethylene- Naphtha และ HDPE-Naphtha ยังคงอยู่ในภาพกว้างขึ้นต่อเนื่อง คาดจะหนุนหุ้นในกลุ่มดังกล่าวรีบาวด์ขึ้นได้ในระยะสั้น
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนาวันน้ี “KBANK”
- คาดผลประกอบการ 2Q’66 เติบโตได้ ทั้ง YoY และ QoQ รวมทั้งปัญหา NPL ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
- ทางเทคนิคไม่ทำ Low ใหม่ พร้อมกลับขึ้นมายืนเหนือ EMA10 วัน
- แนวรับ128.00/126.00 Target134.50/140.00 Stop<124.50