ตลาดหุ้นวานนี้
SET Index เพิ่มขึ้น 2 จุด (+0.15%) ปิดที่ระดับ 1,565 จุด นักลงทุนรอติดตามการหารือของสหรัฐในเรื่องเพดานหนี้ในคืนวานนี้ และเงินเฟ้อของสหรัฐในวันนี้
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET แกว่งตัว 1,555 – 1,570 จุด แม้ภาวะตลาดได้แรงซื้อกลุ่ม Domestic play ก่อนการเลือกตั้งของไทย 14 พ.ค. รวมถึงราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นรับข่าวสหรัฐเล็งซื้อน้ำมันเติมคลัง SPR อย่างไรก็ตามยังคงแนะนำลงทุนแบบ Selective buy เช่นเดิมเพื่อติดตามรายงานดัชนี CPI พื้นฐาน สหรัฐเดือนเม.ย.ที่คาดว่าจะ +5.5% (ประกาศวันนี้ 10 พ.ค.) ซึ่งจะส่งผลให้ Fund flow ผันผวนได้
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- BBL KTB TTB KBANK SCB แนวโน้มกำไร 2Q23 ยังคงเติบโต
- PTTEP TOP BCP ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น
- SAWAD MTC KTC ASK AEONTS อานิสงส์เงินฟ้อไทยชะลอตัวลง
- INTUCH BCH WHAUP BEM CPALL SISB ICHI OR BGRIM คาดงบ 1Q23F เติบโตขึ้น
หุ้นแนะนำวันนี้
- CK (ปิด 21.70 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 28 บาท) เก็งกำไรธีมการเลือกตั้ง ด้านผลประกอบการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น คาดปีนี้จะมี Backlog เพิ่มเป็น 2.5 แสนล้านบาททำสถิติสูงสุดในรอบ 50 ปี (จากการเซ็นสัญญาโครงการหลวงพระบางและรถไฟฟ้าสายสีม่วง)
- MAKRO (ปิด 40 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 44 บาท) เงินเฟ้อลดลงเร็วกว่าที่คาด, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี และธีมการเลือกตั้ง ส่งผลบวกโดยตรงกับหุ้นกลุ่มค้าปลีก นอกจากนี้ MAKRO ยังมี้ลุ้นที่จะได้เข้าคำนวณในดัชนี MSCI รอบใหม่
บทวิเคราะห์วันนี้
- ADVANC, AP, QH, SPALI, THCOM
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) ยอดนำเข้าจีนหดตัวแรงส่วนยอดส่งออกเติบโตในอัตราที่ชะลอตัว: จีนรายงานยอดนำเข้าเดือน เม.ย.หดตัว 7.9% แย่ลงจากที่หดตัว 1.4% ในเดือนมี.ค. และสวนทางกับที่ Consensus คาดว่าจะทรงตัวที่ 0.1%yoy ถือเป็นลบต่อภาคส่งออกของไทยโดยตรงเนื่องจากจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของไทย ส่วนยอดส่งออกจีนเดือน เม.ย.โต 8.5% แต่ลดลงจากที่โต 14.8%yoy ในเดือนมี.ค.
(+) คืนนี้ติดตามอัตราเงินเฟ้อสหรัฐมีแนวโน้มลดลงแต่เป็นไปอย่าช้าๆ: Consensus คาดอัตราเงินเฟ้อ (Headline CPI) ของสหรัฐเดือน เม.ย.จะทรงตัวที่ระดับ 5% เหมือนกับเดือน มี.ค. ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 5.5% จาก 5.6% ในเดือน มี.ค. (อัตราเงินเฟ้อที่ลดช้าเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของค่าเช่าและค่าจ้างแรงงานซึ่งต้องใช้เวลา)
(+) น้ำมันดิบปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 จากข่าวสหรัฐเตรียมซื้อน้ำมันเข้าคลังฯ มากขึ้น: ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 55 เซนต์ (+0.8%) ปิดที่ 73.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังจากนางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รมว.พลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐจะเริ่มซื้อน้ำมันดิบเพื่อเติมเต็มในคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ในช่วงปลายปีนี้จากที่ระบายน้ำมันออกไปอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
ข่าวในประเทศและต่างประเทศ
สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ
ไทย
(-) นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า ปัญหาหมูเถื่อนที่หนีการตรวจสอบยังคงเป็นปัญหา โดยราคาหมูหน้าฟาร์มเกษตรกรปรับตัวลดลงมาตลอด ล่าสุดราคาอยู่ที่ 70-79 บาทต่อกิโลกรัม ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตสูงถึงที่ 100.70 บาทต่อกิโลกรัม
สหรัฐ
(+/-) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (9 พ.ค.) โดยนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมท้ังการประชุมของบรรดาผู้นําทางการเมืองของสหรัฐเพื่อหารือกันเก่ียวกับการเพิ่มเพดานหนี้
ยุโรป
(-) สมาคมค้าปลีกอังกฤษ (BRC) กล่าวว่าการใช้จ่ายที่ร้านค้าสมาชิกสมาคมในเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.1%yoy ทรงตัวจากมี.ค. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังไม่ได้ถูกปรับตามอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้น แม้ว่ายอดขายดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นก็จริง แต่ในความเป็นจริงแล้วปริมาณสินค้าที่ขายได้น้ันลดลงอย่างมาก
เอเชีย
(+/-) สัญญาน้ํามันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (9พ.ค.) หลังจากมีรายงานรัฐบาลสหรัฐมีแผนที่จะซื้อน้ํามันดิบเพื่อเติมเต็มคลังสํารองน้ํามันทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐ (SPR)
(+/-) ยอดส่งออกเดือนเม.ย.ของจีนเพิ่มขึ้น 8.5%yoy แตะที่ระดับ 2.9542 แสนล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 6.4% การขยายตัวของยอดส่งออกเดือนเม.ย.ชะลอลงจากเดือนมี.ค.ที่ขยายตัวแข็งแกร่งถึง 14.8% ส่วนยอดนําเข้าเดือนเม.ย.ปรับตัวลง 7.9%yoy สู่ระดับ 2.0521 แสนล้าน ดอลลาร์ ซึ่งปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ลดลง 1.4% ในมี.ค. และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจจะลดลงเพียง 0.1%