บล.ฟิลลิป:
BCPG: กำไรสุทธิออกมาดีกว่าคาด
ซื้อ TP’66: 16.00
กำไรสุทธิออกมาดีกว่าคาด จากกำไรพิเศษ ขณะที่การดำเนินงานปกติหนุนด้วยปัจจัยตามฤดูกาล และการปรับขึ้น ของค่า Ft ซึ่งทางฝ่ายคาดว่าผลการดำเนินงานใน 2Q66 ยังคงฟื้นตัว จากการกลับมาขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า พลังงานน้ำใน สปป.ลาว ประกอบกับการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาสของโรงไฟฟ้าก๊าซฯในสหรัฐ ทางฝ่ายยังคง คําแนะนํา “ซื้อ”
งบรวม | 1Q66 | 4Q65 | 1Q65 | % y-y | % q-q |
กําไร | 511 | 296 | 1,363 | -62.5 | 72.9 |
EPS | 0.18 | 0.10 | 0.47 | -61.8 | 77.1 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- กำไร 1Q66 ออกมาดีกว่าคาด: กำไร 1Q66 ออกมาดีกว่าคาดอยู่ที่ 511 ลบ. เนื่องจากมีการรับรู้กำไรจากการกลับรายการขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ 248 ลบ. ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นที่ตั้งไว้ในปี 2565 ซึ่งปัจจุบันโครงการดังกล่าว สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จตามกำหนดการ ในด้านของผลการดำเนินงานโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในไทย มีปริมาณการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 84.5 GWh (+3.5% q-q, +0.3% y-y) ตามปัจจัยฤดูกาล ประกอบกับการปรับตัวขึ้นของค่า Ft ซึ่งสามารถชดเชยผลกระทบจาก Adder ที่หมดอายุได้ในส่วนของโครงการพลังงานน้ำใน สปป.ลาว ไม่มีปริมาณการขายไฟฟ้า เนื่องจากหยุดดำเนินการเพื่อเตรียมการขายไฟฟ้าไปเวียดนาม ในส่วนของโครงการในญี่ปุ่นและฟิลิปินส์มี ผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้น q-q เนื่องจากปัจจัยตามฤดูกาลที่ส่งผลให้มีปริมาณการขายไฟฟฟ้าสูงขึ้นอยู่ที่ 25.2 GWh (+17.2% q-q, +69.3% y-y) และ 13.5 GWh (+43.7% q-q, +9.4% y-y) นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนจากการเริ่มรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ (South Field Energy และ Carroll County Energy) ราว 1 เดือน อีก 36.2 ลบ
- คาด 2Q66 ยังฟื้นตัว: ทางฝ่ายคาด 2Q66 ฟื้นตัวต่อ เนื่องจากโครงการพลังงานน้ำใน สปป.ลาว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบระบบ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือน พ.ค. 66 และจะสามารถกลับมาขายไฟฟ้าได้ตามปกติ พร้อมกับการรับรู้ค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นอยู่ที่ 6.95 Uscent/kWh จากเดิมอยู่ที่ 6.56 Uscent/kWh ประกอบกับในไตรมาส 2 จะเป็นการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ เต็มไตรมาส