บล.ฟิลลิป:

ศุภาลัย – SPALI 1Q66 กำไรอ่อนตัว y-y และ q-q

Key Point

1Q66 ยอดขาย 9,029 ลบ. ทำได้ 25% จากเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปี โดยเติบโตจากการขายแนวราบต่างจังหวัดเป็นหลัก โดยเฉพาะที่ภูเก็ต ส่วนในกรุงเทพฯ ลดลง y-y ตามสภาพตลาดที่ปีนี้มีการยกเลิกการผ่อนคลาย LTV ทำให้รายได้ ลดลง y-y และ q-q, กำไร 1,080.41 ลบ. -8.3%y-y -50.2%q-q, คาด 2Q66 ฟื้นขึ้นมีคอนโดครบกำหนดโอนใน 2Q66 และ 3Q66, คาดกำไรสุทธิปี 66 ที่ 8,330 ลบ. +1.9%y-y, ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 29.0 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ปีนี้ยกเลิกผ่อนคลายมาตรการ LTV

1Q66 ทำยอดขาย 9,029 ลบ. +2.0%y-y +21.5%q-q ทำได้ 25% จากเป้าที่ตั้งไว้ 36,000 ลบ. สัดส่วน มาจากแนวราบ 71% และแนวสูง 29% มาจากยอดขายในต่างจังหวัดเติบโต y-y เนื่องจากมียอดขายโครงการในภูเก็ตเข้ามาช่วย โดย 1Q66 ขายดีกว่าปี 2021 ทั้งปี และดีกว่า 1H22 แล้ว แต่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลยอดขาย -y-y ตามสภาพตลาดอสังหาฯ ที่ถูกยกเลิกการผ่อนคลายมาตรการ LTV ทำให้ถูกดึงดีมานด์บางส่วนไปโอนใน 4Q65 และภาพทั้งปีแนวราบอาจไม่โดดเด่นเหมือนปีก่อน จากอดีตในปีที่เคยมีการยกเลิกมาตรการผ่อนคลาย LTV จะค่อยๆ ฟื้นตัวไปทีละไตรมาส แต่ภาพรวมทั้งปียอดขายแนวราบเติบโตลดลง y-y, แต่ในส่วนของคอนโด 1Q66 ยอดขายเติบโตขึ้น y-y จากฐานที่ต่ำ และส่วนใหญ่เป็นการซื้อพร้อมโอน เนื่องจากลูกค้าไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยในอนาคต, ไตรมาสนี้ยังเปิดโครงการน้อย (รวมมูลค่า 4,550 ลบ.) ใน 2Q66 จะเปิดโครงการรวมมูลค่าราว 8,800 ลบ. คาดทำยอดขายเติบโตขึ้น, ส่วนการเปิดประเทศจะทำให้ลูกค้าฟื้นตัวจากผลกระทบโควิด หากเศรษฐกิจฟื้นต่อไปเรื่อยๆ กำลังซื้อจะกลับมามากขึ้น, 1Q66 รายได้รวม 5,734 ลบ. +5.5%y-y -41.0%q-q และยังมี backlog อีก 15,340 ลบ. ที่จะโอนเข้ามาในช่วงที่เหลือของปีนี้, GPM ที่ 36.6% ลดลง y-y และ q-q จาก 1.) สินค้าที่โอนในไตรมาสนี้จะเป็นต้นทุนวัตถุดิบที่สูงจากช่วง 2Q65-3Q65, 2.) สัดส่วนโอนแนวราบ 70% สูงกว่า 1Q65 ที่ 56% ดึง GPM ต่ำลง, 3.) มีการลดราคาโครงการในภูเก็ตจากช่วงโควิด ซึ่งครบกำหนดโอนในไตรมาสนี้, กำไรสุทธิ 1,080,41 ลบ. -8.3%y-y-50.2%q-q

2Q66 ค่อยๆ ฟื้นตัว

คาดยอดโอนใน 1Q66 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี และจะฟื้นตัวได้ใน 2Q66 และ 2H66 เนื่องจากมีคอนโดเริ่มโอนได้ตั้งแต่ไตรมาสสองเป็นต้นไป, 2Q66 จะมีโครงการคอนโดที่จะครบกำหนดโอนใน Supalai loft sathorn-ratchapruek มูลค่า 1,465 ลบ. ขายแล้ว 100% ครบกำหนดโอนใน 2Q66 และ Supalai premier si phraya-samyan มูลค่า 2,300 ลบ. ขายแล้ว 100% ครบกำหนดโอนใน 3Q66, มองว่ารายได้ 1Q66 เป็นจุดต่ำสุด และจะดีขึ้นใน 2Q66 จากการมีคอนโดครบกำหนดโอนเข้ามาช่วย ภาพรวมทั้งปีโอนสัดส่วนแนวราบมากขึ้น คาดว่า GPM ปีนี้จะลดลง y-y, SG&A ในปีนี้เพิ่มขึ้น y-y จากค่าธรรมเนียมโอนเพิ่มเป็น 1% และค่าใช้จ่ายจากการเปิดโครงการที่เพิ่มขึ้น, Cost of fund จาก 1.78 ใน ธ.ค. เป็น 1.91 ใน มี.ค. คาดว่าไตรมาสที่สองจะขยับขึ้นอีกเป็น 2.0, ปกติ Spali จะออกหุ้นกู้ระยะสั้นที่ 1-2 ปี เพราะอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทำให้มีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำเทียบกับในอุตสาหกรรม

ราคาพื้นฐานปี 2566 ที่ 29.00 บาท/หุ้น อิง P/E 6.8 เท่า

ทางฝ่ายฯประเมินราคาหุ้น โดยใช้ P/E เฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี เนื่องจากสะท้อนภาพของธุรกิจปัจจุบันได้เป็นอย่างดีอยู่ที่ 6.8 เท่า และเนื่องจาก GPM 1Q66 ต่ำกว่าคาด ฝ่ายฯปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 66 ลงมาอยู่ที่ 8,330 ลบ. +1.9%y-y ราคาพื้นฐานปี 66 อยู่ที่ 29.00 บาท/หุ้น ปัจจุบันราคาหุ้นต่ำกว่าราคาพื้นฐานและมี PE ที่ 4.99 เท่า ต่ำกว่าเทียบกับระดับอุตสาหกรรมที่ประมาณ 6-7 เท่า คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

1. อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ/อัตราการจ้างงาน/อัตราดอกเบี้ย

2. ทำเลที่ตั้ง, ลักษณะโครงการ ความสมดุลของอุปสงค์และอุปทานในตลาดที่อยู่อาศัย

3. นโยบายลงทุนภาครัฐฯ

- Advertisement -