บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action SELL (from TRADING)

TP upside (downside) -11.7% 

Close May 9, 2023 Price (THB) 40.75

12M Target (THB) 36.00

Previous Target (THB) 43.75 

What’s new?

  • KCE รายงานกำไรปกติต่ำกว่าที่เราคาด 20% และต่ำกว่าที่ตลาดคาด 36% ยอดขายในสกุลเงินดอลลาร์ลดลงทั้ง QoQ และ YoY และอัตรากำไรขั้นต้นอ่อนแอต่อเนื่อง
  • แม้ประมาณการปี 2566 ของเราต่ำกว่าตลาด 11% แต่ประมาณการของ เรามี Downside Risk

Our view

  • เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2566- 2567 ลง 17% และ 29% เป็น 1.7 พันล้าบาท และ 1.9 พันล้านบาท ตามลำดับ เพื่อให้สะท้อนความเสี่ยงมหภาคที่สูงขึ้น และผลประกอบการ 1Q66 ที่ส่งสัญญาณชะลอตัว
  • เราปรับลดราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 เป็น 36.00 บาทต่อหุ้น อิง PER 24.5x หรือ -0.5SD แม้หุ้นปรับลดมาบ้างแล้ว แต่ยังมี Downside แนะนํา “ขาย”

KCE ELECTRONICS ผลประกอบการอ่อนแอ ประมาณการตลาดมี Downside Risk

รายงานกำไรปกติ 1Q66 ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดอย่างมีนัยยะสำคัญ

KCE รายงานกำไรสุทธิ 1Q66 ที่ 345 ล้านบาท แต่หากตัดกำไรอัตราแลกเปลี่ยน 31 ล้านบาท กำไรปกติ 1Q66 อยู่ที่ 314 ล้านบาท (-38% QoQ, -51% YoY)

กำไรปกติต่ำกว่าที่เราคาด 20% และต่ำกว่าที่ตลาดคาดถึง 36% ยอดขายในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงทั้ง QoQ และ YoY และอัตรากำไรขั้นต้นอ่อนแอต่อเนื่อง

รายได้หลักอยู่ที่ 4.0 พันล้านบาท (-13% QoQ, -11% YoY) ยอดขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทำได้ 119.4 ล้านเหรียญ (-7% QoQ, -13% YoY) ต่ำกว่าที่เราคาดที่ 122 ล้านเหรียญ ยอดขายลดลง YoY ในสินค้าทุกประเภท ยกเว้นสินค้ากลุ่ม Special grade (HDI) ยอดขายในตลาดอเมริกา -9% YoY ตลาดเอเชีย -17% YoY ส่วนตลาดยุโรป -3% YoY

อัตรากำไรขั้นต้นทำได้ 19.6% (-154bps QoQ, -382bps YoY) ใกล้เคียงกับคาดการณ์ของเราที่ 19.8% อัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอเป็นผลกระทบของค่าเงินบาท/USD ที่แข็งค่า การกักตุนวัตถุดิบในราคาแพง และค่าไฟที่สูงขึ้น

SG&A อยู่ที่ 480 ล้านบาท (+3% QoQ, +20% YoY) SG&A to sale อยู่ที่ 11.9% สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ที่ 11% SG&A มากกว่าคาดการณ์ของเราราว 47 ล้านบาท เราคาดว่า KCE จะเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อชดเชยตลาดที่ชะลอตัว แต่ทำได้ไม่เพียงพอและช้ากว่าที่เราคาดการณ์

ประมาณการของตลาดมี Downside Risk อย่างมีนัยสำคัญ

เราคาดการณ์กำไรปกติทั้งปี 2566 ของ KCE ที่ 2.10 พันล้านบาท (-9% YoY) ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของตลาดที่ 2.36 พันล้านบาทราว 11% อย่างไรก็ดี บนประมาณการที่ต่ำกว่าตลาด กำไรปกติ 1Q66 ของ KCE คิดเป็นเพียง 15% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2566 ของเรา ดังนั้นตลาดมีโอกาสสูงมากที่จะต้องปรับลดประมาณการปี 2566 ลงอย่างมีนัยสําคัญ

ส่วนประมาณการของเรามี Downside Risk เช่นกัน เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2566-2567 ลง 17% และ 29% เป็น 1.7 พันล้านบาท และ 1.9 พันล้านบาท ตามลำดับ หลักๆ จาก 1) ปรับลดสมมติฐานรายได้ในสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ จากเติบโต 5.3% YoY เป็น -8.5% YoY เราคาดว่าความเสี่ยง Recession ที่รุนแรงขึ้นโดยเฉพาะใน 2H66 จะทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกชะลอคำสั่งซื้อที่ไม่จำเป็น และ 2) ปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2566-2567 จาก 22.5% และ 25.0% เป็น 21.8% และ 22.0% ตามลำดับ หลักๆ จากการลดต้นทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพชดเชย Scale ที่หายไปทำได้ช้ากว่าคาด

ปรับลดคำแนะนำเป็น “ขาย” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 36.00 บาท

ผลของการปรับลดประมาณการ ทำให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ของเราปรับลดลงเป็น 36.00 บาท ต่อหุ้น อิง PER 24.5x หรือ -0.5SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต ประมาณการปัจจุบันของเราต่ำกว่าประมาณการของตลาด 26% เราคาดว่าตลาดมีแนวโน้มต้องปรับลดประมาณการในระยะถัดไป เราปรับลดคำแนะนำเป็น “ขาย” แม้ราคาหุ้นปรับลดลงมาต่อเนื่องแต่หุ้นยังมี Downside เชิงกลยุทธ์คาดหุ้นตอบสนองเชิงลบก่อนการประชุม และหากแนวโน้มการประชุม 2Q66 ไม่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ หุ้นมีโอกาส underperform ไปอีกระยะ ดังนั้นไม่ต้องรีบเข้าลงทุนควรรอการปรับลดประมาณการของตลาดในราคาหุ้นอีกระยะ

ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) ค่าเงินบาท/USD 2) ราคาทองแดง 3) การขึ้นสายการผลิตโดยเฉพาะโรงงานที่โรจนะทำได้ล่าช้า และ 4) การเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง

- Advertisement -