KS Daily View 11.05.2023 >>> เงินเฟ้อ US ชะลอ เพิ่มโอกาส Fed หยุดขึ้นดอกเบี้ย SET คาดแกว่งตัวขึ้นต่อในกรอบ 1,550-1,585 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ MOSHI, BE8
สรุปภาวะตลาดเมื่อวันวานนี้
ต่างประเทศ: ดัชนี DJIA -0.09%, S&P 500 +0.45%, และ NASDAQ +1.04% โดยSector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่ Communication Services (+1.7%), IT (+1.2%), และ Utilities (+0.9%) ส่วน Sector ที่ underperform ได้แก่ Energy (-1.2%), Financials (-0.6%), และ Industrials (-0.32%)
ในประเทศ: SET Index +4.90pts. หรือ +0.31% เป็น 1,569.56 หนุนโดย TIDLOR (+11.5%), SINGER (+7.7%), MTC (+7.4%), SAWAD (+3.9%) ขณะที่ตัวที่ปรับตัวแย่กว่าตลาดได้แก่ KCE (-7.4%), LH (-3.2%), HANA (-3.0%), WHA (-2.6%)
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ
ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวขึ้นต่อในกรอบ 1,550-1,585 จุด หลังตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะในหมวดอสังหาฯ ได้แก่ Rent +0.56% และ OER +0.54% (เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย แต่ต่ำสุดนับแต่เดือน เม.ย. 2022) และ Core services ex shelter +0.11% MoM (ต่ำสุดนับแต่เดือน ก.ค. 2022) ทำให้ทาง KS ยังคงมุมมองว่าเฟดได้จบรอบขึ้นดอกเบี้ยที่ 5-5.25% หลังจากนี้หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ 3Q23 เริ่มติดลบ และเริ่มเห็นผลกระทบของการขึ้นดอกเบี้ยที่เป็น lagging indicator เพิ่มต่อภาคธนาคาร, อสังหาฯ, การจ้างงาน และเงินเฟ้อบริการค่อยๆกดลง คาดว่า FED จะเริ่มส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนสิงหาคมนี้ (Jackson Hole) เรามองว่าการที่เงินเฟ้อค่อยๆชะลอตัวยืนยันมุมมอง Soft Landing ด้วย มองเป็นบวกกับตลาดหุ้นในภาพรวม โดยเฉพาะกลุ่ม Quality Growth ดังนี้แนะนำนักลงทุนทยอยสะสมหุ้นต่อเนื่อง และมีโอกาสลุ้นการปรับขึ้นของดัชนีต่อเนื่องไปถึงหลังการเลือกตั้งหากสามารถตั้งรัฐบาลได้
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
1.) สหรัฐฯรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน เม.ย. +0.4% MoM และ +4.9% YoY (น้อยกว่าคาดที่ 5.0% YoY) และ Core CPI +0.4% MoM and +5.5% YoY (ตามคาด) โดยเริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวของเงินเฟ้อในหมวดอสังหาฯ และหมวดบริการแล้ว
2.) งบ 1Q23 ที่รายงานวานนี้ ดีกว่าคาด (OSP, NCAP, SPRC, CPALL, BCP, IVL, OR)
, ตามคาด (BJC, PTTGC, TOP, GUNKUL, SC, BRI) และแย่กว่าคาด (TRUE, BANPU, AAI, ASIAN, AMANAH, TEAMG, BLA, TEGH) ส่วนหุ้นที่ นวค. มีการปรับคำแนะนำคือ KCE (คงคำแนะนำ ถือ ลดเป้าเป็น 41 บาทจาก 48 บาท)
3.) จากการรายงานผลประกอบการ 1Q23 ล่าสุดพบว่ากลุ่ม Domestic play ที่รายงานแล้ว (Bank, Commerce, Finance, Property, F&B) ส่วนใหญ่รายงานกำไร 1Q23 ตามคาดหรือดีกว่าคาด พร้อม outlook ที่มีแนวโน้มดีขึ้นต่อใน 2Q23 ขณะที่กลุ่มที่อิงต่างประเทศ (Energy, Petrochemical, Export linked sectors, Electronics) รายงานกำไร 1Q23 ตามคาดหรือแย่กว่าคาด และ outlook หลายตัวมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อใน 2Q23 ดังนี้มองว่ากลุ่มDomestic play มีแนวโน้มจะ outperform ต่อเนื่อง นอกจากเรื่องงบแล้วยังมีแรงหนุนจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
MOSHI (ราคาพื้นฐาน 51.70 บาท) คาดกำไร 1Q23 ที่ 98 ลบ. (+239% YoY, -17% QoQ) หนุนโดยSSSG ที่ระดับ 40% และการเปิดสาขาใหม่ 3 แห่งใน 1Q23 ขณะที่คาดกำไรจะเร่งตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีหนุนโดยการเปิดสาขาใหม่ (ทั้งปี 20 สาขา) การบริโภคในประเทศที่เติบโตดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ, นโยบายกระตุ้นของภาครัฐ และนักท่องเที่ยวที่เร่งตัวขึ้น
BE8 (ราคาพื้นฐาน 69.68 บาท) มอง Growth stock จะปรับตัวขึ้นจากโอกาส Soft Landing ที่เฟดจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อส่งสัญญาณชะลอตัว ขณะที่คาด BE8 จะรายงานกำไร 1Q23 ที่ 61 ลบ. (+157% YoY, +23% QoQ) เป็นจุดสูงสุดใหม่ จากการควบรวมกิจการของ Baycom ตั้งแต่ปี 2566 และธุรกิจเดิมของ BE8 นอกจากนี้ประเมินกำไรปี 2023 ที่ 301 ลบ. เติบโต 117% YoY หนุนโดยธุรกิจเดิม, การควบ X-10 และ Baycom และงานภาครัฐเพิ่มหลังการเลือกตั้ง ทั้งนี้ราคาหุ้นปรับตัวลง -27.5% YTD เทียบ SET Index -6% YTD
Theme การลงทุนสัปดาห์นี้
1.) หุ้นที่เราคาดผลประกอบการไตรมาส 1Q23 แข็งแกร่ง นำโดย (AURA , AMATA, CK) AURA หากอิงจากราคาทองคำ (ล่าสุดแตะรับสูงสุดที่ 2,060 ดอลลาร์สหรัฐฯ) รวมถึงความผันผวนของค่าเงินบาทส่งผลให้เราคาดว่ายอดซื้อขายทองคำหน้าร้านจะเพิ่มขึ้น โดยคาดกำไรไตรมาส 1Q23 เติบโต 14%QoQ, 21%YoY ที่ 257ล้านบาท คิดเป็น27%ของประมาณการกำไรปีนี้ ในขณะที่ใกล้ช่วงเปิดเทอมในไตรมาส 2Q23 คาดรายได้จากธุรกิจจำนำจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเราปรับประมาณการคำแนะนำขึ้นจากถือเป็น ซื้อ ด้วยราคาเหมาะสมที่ 19.34 บาท/หุ้น AMATA บนเม็ดเงิน FDI ไหลเข้าเพิ่มขึ้นจากความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน และความเชื่อมั่นภาคเอกชนหลังการเลือกตั้ง ส่วน CK มองได้ sentiment บวกจากการประมูลงานรัฐกลับมาหลังเลือกตั้ง และราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายไม่แพง มีส่วนลดจากมูลค่าสินทรัพย์ถือครองอยู่ที่ 41%
2.) กลุ่มธนาคาร (BBL, KTB) เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการประชุมนักวิเคราะห์ BBL เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่เราคาดว่าการประชุมกนง.ในช่วงไตรมาส 2Q23 มีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง โดยคาดผลประกอบการของบริษัทจะฟื้นตัวต่อเนื่องทั้งในเชิง QoQ และ HoH จากการขยายตัว Loan Growth และ NIM (%) ในระดับ 4-5% และ 2.7% ตามลำดับ ในขณะที่ประเมินการตั้งสำรองในช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มลดลง สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ จากเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมา เราได้ปรับประมาณการกำไรปี 2023-25 ขึ้น 7-12% ตามลำดับพร้อมปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 182.5บาท
3.) กลุ่มการเงิน (AEONTS) มองค่าแรงขั้นต่ำ/เงินเดือน ป.ตรีมีโอกาสปรับขึ้นจากนโยบายของพรรคการเมืองที่มีคะแนนนำในขณะนี้จะหนุน Loan growth ของบริษัทสูงกว่าเป้าที่ 5-10% เราเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีทั้งในเชิง QTD ทั้งการเติบโตของการเติบโตสินเชื่อ และคุณภาพสินทรัพย์ ทำให้เราคาดว่ากำไร 4QFY66 ที่อ่อนแอจะเป็นจุดต่ำสุดและคาดกำไรไตรมาส 1QFY67 จะปรับตัวดีขึ้น QoQ
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ:
- วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย เดือน เม.ย. ตัวเลขเงินเฟ้อจีนเดือน เม.ย. คาด +0.1% MoM และ +0.9% YoY ตัวเลข Producer Price Index (PPI) ของจีนเดือน เม.ย. คาด-2.1% YoY ตัวเลข PPI ของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด +0.3% MoM และ +2.5% YoY
- วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลข GDP 1Q23 ของอังกฤษคาด +0.1% QoQ และ +0.2% YoY ตัวเลข Michigan Consumer Sentiment ของสหรัฐฯ เดือนพ.ค. คาด 63 จุด (-0.8% MoM)