สรุปภาวะตลาด
วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงในช่วงแรก ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับ ทำให้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก และแกว่งตัว sideway โดยมีแรงซื้อหลักๆ มาจากหุ้นกลุ่มการเงิน หลังจากหุ้นในกลุ่มมีผลการดำเนินงานออกมาดี ประกอบกับราคาที่ปรับตัวลงมาในช่วงก่อนหน้า พร้อมทั้งตลาดคาดว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐถึงจุดสูงสุดแล้ว และหุ้นกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้นักลงทุนยังติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,569.56 จุด +4.90 จุด +0.31% มูลค่าการซื้อขาย 49,967 ลบ. ต่างชาติ -1,327.87 ลบ. TFEX +1,226 สัญญา ตราสารหนี้ +5,024.65 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 4.9%YoY ในเดือน เม.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5% และชะลอตัวจากระดับ 5% ในเดือนมี.ค.
+ สภาทองคำโลกเปิดรายงานแนวโน้มความต้องการทองคำในช่วง 1Q66 ธนาคารกลางโลกเร่งตุนสำรองทำสถิติสูงสุด 228 ตัน ไทยสะสมเพิ่ม 3% เกือบ 4 ตัน ดีมานด์สหรัฐพุ่งสูงสุดรอบ 13 ปี แตะ 32 ตัน
+ รองประธานกรรมการหอการค้าไทยเปิดเผยถึงสถานการณ์ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมอาหารว่า 1Q66 มีมูลค่า 346,379 ล้านบาท ขยายตัวสูงถึง 10%YoY โดยสินค้าหลักที่ใช้เป็นวัตถุดิบ เช่น น้ำตาลทราย ข้าว กุ้ง ผลไม้ เป็นต้น
+ สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า ขณะน้ีประเทศไทยถูกจารึกบนแผนที่โลกในฐานะเมืองท่องเท่ียวชั้นนำระดับโลก กรุงเทพฯ มีช่ือเสียงเหมือน นิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส และโตเกียว
ปัจจัยลบ
– ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 30.48 จุด -0.09% นลท. กังวลปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ หลังจากการเจรจาระหว่างปธน.ธิบดีโจ ไบเดน และผู้นำสภาคองเกรส ยังไม่มีความคืบหน้า อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ลดช่วงลบ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% หลังสหรัฐ เปิดเผยดัชนี CPI ท่ีต่ำกว่าคาด
– สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.15 ดอลลาร์ -1.6% ปิดที่ 72.56 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้นครั้ง แรกในรอบ 4 สัปดาห์ และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัว Sideway ต่อเนื่อง โดยมีแรงบวกจากตัวเลข CPI สหรัฐที่ออกมาดีกว่าตลาดคาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PPI ประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐในวันน้ี ประกอบกับยังติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,560-1,575 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- จำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น: AOT BAFS AAV BA MINT CENTEL ERW
- หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL COM7 CPALL
- โอมิครอนสายพันธุ์ XBB.1.16 ระบาด : BCH CHG VIBHA EKH
- สินค้าส่งออกเดือนมี.ค.ที่ยังขยายตัว : KBS BRR KSL GFPT TFG SNC
- หุ้นที่ได้ประโยชน์หลังเลือกตั้งอยู่ในกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง ค้าปลีก และนิคมอุตสาหกรรม ได้แก่ PYLON SEAFCO STEC CK CPALL MAKRO BJC WHA AMATA
หุ้นรายงานพิเศษ
CEYE – “ซื้อ” (ราคาเหมาะสม 7 บาท) กำไร 1Q66 มีแนวโน้มดีกว่าคาดการณ์ของเรา
- สําหรับงวด 1Q66 ฝ่ายวิจัยคาดรายได้ราว 120 ล้านบาท (+10%QoQ, +11%YoY) และกําไรราว 22 ล้านบาท (+10%QoQ, +7%YoY) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากฤดูกาลที่เป็นช่วงไฮซีซั่น และการรับรับรู้รายได้ในการควบรวมกิจการกับบจ. ซีอาล็อต- บูทีค โพสท์โปรดักชั่น และบจ. เออเบิร์น มีเดีย- ครีเอชั่นตั้งแต่เดือนมี.ค. 66 ซึ่งมี upside จากอัตรากําไรขั้นต้นอาจสูงกว่าสมมติฐานที่ระดับ 30% (ต่ำกว่า %GP ในช่วง 4Q65 ที่ 34%) เป็นผลจากการเติบโตของรายได้สูงกว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
- ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของอุตสาหกรรมโฆษณาที่มีอุปสงค์ เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์กําไรปี 66 เติบโตต่อเนื่องราว 29%YoY เป็น 67 ล้านบาท แม้กําไรปี 65 มีฐานการเติบโตสูงถึง 83%YoY ซึ่งยังมีโอกาสเติบโตได้อีกหากสามารถปิดดีลเข้าลงทุนในธุรกิจ Production โฆษณาครบวงจรท่ีที่เวียดนามได้ ราคาปิดล่าสุดที่ยังมี upside ทําให้เรายังแนะนํา “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) ADVANC (Bloomberg consensus 240.00 บาท) แวว ARPU ไตรมาส 2/2566 พุ่ง หลังลูกค้าใหม่เริ่มปรับแพ็กเกจ ทำให้กลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่มี ARPU ที่สูงขึ้น เช่นเดียวกันกับบรอดแบนด์ เดินหน้าผลักดันลูกค้า 5G รอ กสทช. เคาะข้อสรุปซื้อ TTTBB คาดลงทุนชัดเจนไม่เกินไตรมาส 3/2566 (ที่มา ทันหุ้น)
(+) DITTO (Bloomberg consensus 47.50 บาท) ส่งสัญญาณธุรกิจไตรมาส 2/66 ติดเครื่องวิ่งต่อ โอกาสโกยบิ๊กโปรเจ็กต์พรึ่บ ด้านบอสใหญ่ “ฐากร รัตนกมลพร” โชว์แบ็กล็อกเต็มหน้าตัก 4,416 ล้าน บาท ระบุงานวิศวกรรม และบริหารจัดการเอกสารเป็นพระเอก เล็งชงบอร์ดเคาะงบไตรมาสแรก 12 พ.ค.นี้ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) ITEL (Bloomberg consensus 4.50 บาท) ส่งซิกไตรมาส 2/2566 เดินหน้าเสนองานใหม่ ทั้งงานวางระบบเคเบิลใยแก้วนำแสง และอุปกรณ์ประกอบระบบพื้นที่ จ.กาญจนบุรี มูลค่า 39.50 ล้านบาท ล่าสุดจับมือ Edge Centres ยักษ์ใหญ่ระดับโลกจากออสเตรเลียเปิดตัวศูนย์สำรองข้อมูล หรือ Data Ce nte r หนุนผล งานรวมปีนี้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) STA (Bloomberg consensus 22.50 บาท) เปิดงบไตรมาสแรกปี 2566 มีปริมาณการขายยางธรรมชาติ 400,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ราคาสินค้ามีความผันผวนกดรายได้เหลือ 24,426 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 288 ล้านบาท คาดแนวโน้มไตรมาส 2/2566 เห็นสัญญาณบวกจากสต๊อกวัตถุดิบของผู้ประกอบการยางล้อที่ทยอยลดลง หนุนดีมานด์และราคายางค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น เดินหน้าขยายกำลังการผลิตตามแผนงานที่วางไว้ (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- 11 พ.ค. หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยแถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
- สัปดาห์ที่ 3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
- 14 พ.ค. เลือกตั้ง
- 15 พ.ค. ครบกำหนดบริษัทจดทะเบียนนำส่งงบการเงิน
- สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลง GDP ไตรมาส 1/66
- สัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ กระทรวงพาณิชย์แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ การค้าชายแดน และการค้าผ่านแดน
- 23 พ.ค. ประชุมกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์)
- สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค, สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม - 31 พ.ค.กำหนดประชุม กนง.ครั้งที่ 3/2566, ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 11 พ.ค. จีนรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน เม.ย. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย.
- ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย
- สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย. บ่งชี้เงินเฟ้อสหรัฐ
- 12 พ.ค. อังกฤษเปิดเผย GDP 1Q66 (ประมาณการเบื้องต้น) และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค.
- สหรัฐรายงานราคานำเข้าและส่งออกเดือนเม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ค.
- 15 พ.ค. อียู รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน มี.ค.
- สหรัฐ รายงานดัชนีภาคการผลิต (Empire State ManufacturingIndex) เดือนพ.ค.จากเฟดนวิยอร์ก
- 16 พ.ค. จีน รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย.ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.
- อียู รายงานดุลการค้าเดือนมี.ค.
- 4 มิ.ย.โอเปกและชาติพันธมิตรประชุมเพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมัน
