บล.บัวหลวง:

True Corporation (TRUE TB/TRUE.BK)

TRUE – ขาดทุนหลักสูงกว่าคาด; คาดขาดทุนลดลง QoQ ในไตรมาส 2/66

ขาดทุนหลักมากกว่าคาด

TRUE รายงานขาดทุนสุทธิไตรมาส 1/66 (เปรียบเทียบกับงบที่ทำการปรับปรุงใหม่ย้อนหลัง ซึ่งรวมผลกระทบจากการควบรวมกิจการของ TRUE และ DTAC) ที่ 492 ล้านบาท หรือพลิกจากกำไรสุทธิ 1.42 พันล้านบาทใน ไตรมาส 1/65 แต่ขาดทุนสุทธิลดลง 95% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษในไตรมาส 1/66 ซึ่งได้แก่ กำไรพิเศษจํานวน 1.36 พันล้านบาท ซึ่งรายการกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและเงินค่าประกันสินไหมทดแทนบางส่วนที่ได้รับคืน ขาดทุนหลักในไตรมาสนี้อยู่ที่ 1.85 พันล้านบาท เทียบกับกำาไรหลัก 860 ล้านบาท ในไตรมาส 1/65 แต่ขาดทุนหลักลดลง 61% QoQ ขาดทุนสุทธิถือว่าใกล้เคียงกับประมาณการก่อนหน้าของเรา แต่ขาดทุนหลักถือว่ามากกว่าที่เราคาด 85% เนื่องจากรายได้บริการที่ต่ำกว่าคาด

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

ผลประกอบการหลักที่แย่ลง YoY เนื่องจากรายได้บริการที่ลดลง (ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ธุรกิจออนไลน์ และธุรกิจเพย์ทีวี) และค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารที่เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวม (ที่ไม่รวมค่า เสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่าย) ปรับตัวลดลง 5% YoY และ 10% QoQ เนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการลดต้นทุนการดำเนินงานอย่างจริงจัง (ถึงแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อ ค่าสาธารณูปโภค และค่าพลังงานปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม) รายได้บริการรวมในไตรมาส 1/66 ลดลง 2% YoY และ 1.8% QoQ เนื่องจากรายได้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และรายได้บริการออนไลน์ที่ปรับตัวลดลง

รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังคงปรับตัวลดลง 2.5% YoY และ 1.7% QoQ เนื่องจากรายได้รวมเฉลี่ยต่อรายต่อเดือนของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ยังคงลดลงต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการแข่งขันในเชิงรุกที่มากขึ้น (แม้ว่าได้รับผลบวกจากจํานวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นก็ตาม) รายได้เฉลี่ยต่อรายต่อเดือนของบริการพรีเพดยังคงลดลงต่อเนื่อง จากการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ในขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อรายต่อเดือนของบริการโพสต์เพดยังคงทรงตัว รายได้จากบริการออนไลน์ในไตรมาส 1/66 ลดลง 2.3% YoY และ 0.9% QoQ เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาที่ยังคงรุนแรง รายได้จากธุรกิจเพย์ทีวีใ ไตรมาสนี้ลดลง 1.6% YoY และ 1.9% QoQ แต่รายได้เฉลี่ยต่อรายต่อเดือนของธุรกิจเพย์ทีวียังคงปรับตัวดีขึ้นเนื่อง จากสัดส่วนของฐานผู้บริโภคในวงกว้างที่ลดลง และการขายไปสู่แพ็คเก็จราคาที่แพงขึ้น จำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นอีก 6.76 แสนรายในไตรมาส 1/66 ไป เป็น 50.5 ล้านราย โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการ 5 จีจํานวน 6.3 ล้านราย (หรือเพิ่มขึ้น 13% QoQ) และรายได้เฉลี่ยต่อรายต่อเดือนจากบริการ 5 จี ที่จะเพิ่มขึ้นอีก 10-15%

แนวโน้ม

เราคาดขาดทุนหลักในไตรมาส 2/66 ที่ 800 ล้านบาท ขาดทุนหลักลดลง 57% QoQ (เนื่องจากรายได้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากอัตราเงินเฟ้อที่ดูคลี่คลายลง ซึ่งจะกระตุ้นการบริโภคในประเทศและการแข่งขันด้านราคาที่เบาบางลงอย่างมาก จากการทยอยเลิกแพ็กเกจราคาถูก “เน็ตไม่จำกัดการใช้งาน” รวมถึงความ พยายามในการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง เราคาดว่าจะเห็นผลประโยชน์ร่วมจากการควบรวมกิจการในระยะสั้น ในแง่ของโอกาสของการขายข้ามผลิตภัณฑ์สินค้าและการขายไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่แพงมากขึ้นภายในปี 2566 ผลของการควบรวมกิจการ TRUE-DTAC ได้แก่ ลูกค้าของ TRUE-DTAC จะได้รับประโยชน์จากคุณภาพเครือข่ายที่ดีขึ้น ความครอบคลุมของสัญญาณภายในอาคารที่ดีขึ้น และการเข้าถึงบริการ 5 จีด้วยคลื่นความถี่ 2.6 กิกะเฮิร์ซ และความครอบคลุมสัญญาณ 4 จีที่ดีขึ้นบนคลื่นความถี่ 700 เมกะเฮิร์ซ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายในปี 2566 ได้แก่ รายได้บริการ (ไม่รวมไอซี) ทรงตัว EBITDA ที่ทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย และงบลงทุนที่ 2.5-3 หมื่นล้านบาท และเนื่องจากเป้ารายได้บริการที่ทรงตัวในปี 2566 เราจึงมองว่ารายได้บริการมีแนวโน้มกลับมาเติบโตแข็งแกร่งมากขึ้นในไตรมาสที่เหลือของปีนี้ (เทียบกับรายได้บริการที่ลดลง 2% YoY ในไตรมาส 1/66)

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เรายังคงประมาณการขาดทุนสุทธิสำหรับปี 2566 ไม่เปลี่ยนแปลง

คําแนะนํา

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ด้วยความคาดหวังต่อขาดทุนหลักที่มีแนวโน้มลดลงในทุกไตรมาสที่เหลือของปี 2566 และความคาดหวังต่อผลประโยชน์ร่วมจากการควบรวมกิจการในรูปของรายได้ที่จะเพิ่มขึ้น และต้นทุนการดำเนินงานที่จะลดลงไปอีกในปี 2566

- Advertisement -