บล.ฟิลลิป:

IVL: กำไร 1Q66 ฟื้นตัว q-q

ซื้อ TP’66: 60.00

1Q66 กลับมากำไร และคาดว่าอุปสงค์ใน 2Q66 จะทยอยฟื้นตัวมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วง high season ของธุรกิจ CPET ประกอบกับส่วนต่างราคาของ MTBE ที่คาดว่ายังคงแข็งแกร่งจากอุปสงค์ของน้ำมันเบนซินที่สูงขึ้นตามฤดูกาล ทางฝ่ายยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” 

งบรวม

1Q66

4Q65

1Q65

% y-y

% q-q

กําไร

1,023

-11,478

14,070

-92.7

n.a.

EPS

0.15

-2.08

2.47

-93.9

n.a.

หมายเหตุ: กําไร = ล้านบาท, EPS = บาท

  • กำไรสุทธิ 1Q66 ฟื้นตัว q-q แต่ยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ: 1Q66 IVL มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,023 ลบ. พลิกจากขาดทุน q-q แต่ลดลง 92.7% y-y และมีกำไรปกติอยู่ที่ 2,079 ลบ (+405.8% q-q, -80.3% y-y) เนื่องจาก 1) ธุรกิจ CPET มี EBITDA อยู่ที่ 142 ล้านดอลลาร์ (+621% q-q, -74% y-y) จากปริมาณการขายรวมอยู่ที่ 2.44 ล้านต้น ปรับตัวสูงขึ้นจาก 2.3 ล้านตัน ซึ่งยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติ ประกอบกับส่วนต่างราคา PET ปรับตัวมาอยู่ที่ 253 ดอลลาร์/ตัน (+21.1% q-q, -36.9% y-y) ขณะที่ต้นทุนค่าขนส่งที่กลับสู่ภาวะปกติส่งผลให้อัตราการทำกำไรในทวีปยุโรปและบราซิลของ IVL อ่อนตัวลง 2) ธุรกิจ IOD มี ÈBITDA อยู่ที่ 128 ล้านดอลลาร์ (+37% q-q, +4% y-y) เนื่องจากส่วนต่างราคาของ MEG และ MTBE อยู่ที่ 379 ดอลลาร์/ตัน (+46.9% q-q, -19.0% y-y) และ 624 ดอลลาร์/ตัน (+3.8% q-q, -68.2% y-y) และยังมีแรงหนุนจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่อ่อนตัวลง q-q ซึ่งใน 1Q66 IVL มีการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน IVOX ตามแผน แต่ในขณะเดียวกันโรงงาน IVOG ต้องปิดปรับปรุงนอกแผนเนื่องจากสภาพอากาศที่ผิดปกติส่งผลให้ธุรกิจ IOD มีปริมาณการขายรวมลดลงอยู่ที่ 0.64 ล้านตัน จากเดิม 0.65 ล้านตัน 3) ธุรกิจ Fiber มี EBITDA อยู่ที่ 32 ล้านดอลลาร์ (+514% q-q, -69% y-y) จากปริมาณการขายและอัตรากำไรที่ปรับตัวดีขึ้น q-q ในทุกหน่วยธุรกิจ
- Advertisement -