บล.บัวหลวง:
Banpu (BANPU TB/BANPU.BK)
BANPU – กำไรไตรมาส 1/66 ต่ำกว่าคาด; คาดไตรมาส 2/66 อ่อนตัวลงต่อเนื่อง
ต่ำกว่าคาด
BANPU รายงานกําไรสุทธิไตรมาส 1/66 ที่ 4,988 ล้านบาท ลดลง 51% YoY แต่พลิกกลับจากรายงานขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4/65 หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 3,777 ล้านบาท ลดลง 57% YoY และ 83% QoQ ผลประกอบการต่ำกว่าที่เราคาด 38% เนื่องจากกำาไรจากธุรกิจก๊าซและถ่านหินที่ต่ำกว่าคาด (และต่ำกว่าที่ตลาดคาด 56%)
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
กําไรพิเศษในไตรมาส 1/66 เทียบกับรายงานขาดทุนพิเศษ (ส่วนใหญ่มาจากการขาดทุนจากการด้อยค่าของเหมืองถ่านหินในมองโกเลีย, ขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์, และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน) ในไตรมาส 4/65 เป็นปัจจัย สําคัญที่หนุนให้ผลประกอบการพลิก QoQ เป็นกำไรสุทธิในด้านการดำเนินงาน ยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น 7% YoY (ยอดขายของธุรกิจถ่านหินที่เพิ่มขึ้น) แต่ลดลง 46% QoQ (ยอดขายของธุรกิจถ่านหิน, ก๊าซ, และไฟฟ้าลดลง) รายได้ธุรกิจถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY (ราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้นในประเทศออสเตรเลีย) แต่ลดลง QoQ (ปริมาณขายในประเทศออสเตรเลียที่ลดลง และราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงทั้งในประเทศอินโดนีเซียและออสเตรเลีย) ยอดขายธุรกิจก๊าซลดลง YoY และ QoQ (ปริมาณขายที่ลดลง QoQ และราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงทั้ง YoY และ QoQ) รายได้ธุรกิจไฟฟ้าปรับตัวลง YoY และ QoQ (ยอดขายที่ลดลงจากโรงไฟฟ้าในจีน และ Temple I)
อัตรากําไรขั้นต้นรวมอยู่ที่ 24.0% ลดลงจาก 40.2% ในไตรมาส 1/65 และ 42.1% ในไตรมาส 4/65 (อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจถ่านหินและไฟฟ้าที่ลดลง) อัตรากำไรสุทธิของ BANPU อยู่ที่ 11.2% ลดลงจาก 24.7% (ตามอัตรากําไรขั้นต้นที่ลดลง) แต่พลิกกลับจากแดนติดลบที่ -0.3% ในไตรมาส 4/65 (การรับรู้กำไรพิเศษเทียบกับขาดทุนพิเศษในไตรมาส 4/65)
แนวโน้ม
กําไรหลักของ BANPU ในไตรมาส 2/56 มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง YoY และ QoQ ซึ่งถูกดดันโดยกำไรที่ลดลงของธุรกิจถ่านหินและก๊าซ (ราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง)
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ลง 59% มาอยู่ที่ 11,860 ล้านบาท เพื่อสะท้อนการปรับลดสมมติฐานราคาถ่านหิน NEWC ลงเหลือ 175 เหรียญ สหรัฐ/ตัน จาก 200 เหรียญสหรัฐ/ตัน ดังนั้นราคาเป้าหมายด้วยวิธี SOTP ณ สิ้นปี 2566 ของเราจึงปรับลดลงเหลือ 9.30 บาท จาก 11.90 บาท
คําแนะนํา
ช่วงโลว์ซีซั่นของอุปสงค์ที่กำลังจะมาถึงและอุปทานถึงตัวที่คลี่คลายลงมีแนวโน้มที่จะสร้างแรงกดดันต่อราคาถ่านหิน และก๊าซต่อเนื่องไปในไตรมาส 2/66 ดังนั้นเราจึงไม่เห็นปัจจัยหนุนกำไรหลัก และราคาหุ้นของ BANPU ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม มูลค่าหุ้นซึ่งปัจจุบันซื้อขายที่ PER ณ สิ้นปี 2566 เพียง 0.7 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.2 เท่า อยู่ 1.1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) น่าจะจํากัดความเสี่ยงขาลงของราคาหุ้นได้ นอกจากนี้ยังมีอัพไซต์ต่อประมาณ การกำไรในระยะยาวจากการลงทุนใหม่ในธุรกิจพลังงานอัจฉริยะ (BanpuNEXT)