บล.บัวหลวง:

PTT Oil and Retail Business (OR TB/OR.BK)

OR – กำไรไตรมาส 1/66 สูงกว่าทุกคาดการณ์; คาดไตรมาสหน้าอ่อนตัวลงจากปัจจัยฤดูกาล

สูงกว่าทุกคาดการณ์

OR รายงานกําไรสุทธิไตรมาส 1/66 ที่ 2,975 ล้านบาท ลดลง 23% YoY แต่พลิกกลับจากรายงานขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4/65 กำไรสุทธิสูงกว่าที่เราคาด 33% (และสูงกว่าที่ตลาดคาด 15%) เนื่องจากกำไรขั้นต้นจากธุรกิจน้ำมันที่มากกว่าคาด

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้กําไรสุทธิปรับตัวลดลง YoY ได้แก่ 1) กำไรจากธุรกิจ Mobility ที่ลดลง, 2) กำไรจากธุรกิจ Lifestyle ที่ลดลง, และ 3) กำไรจากธุรกิจต่างประเทศที่ลดลง ในขณะที่ปัจจัยหลักที่หนุนการเติบโตของกำไรสุทธิ QoQ ได้แก่ 1) กำไรจากธุรกิจ Mobility ที่เพิ่มขึ้น, 2) กำไรจากธุรกิจ Lifestyle ที่เพิ่มขึ้น, 3) ผลประกอบการจากธุรกิจต่างประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น, 4) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารต่อยอดขายลดลงมาอยู่ที่ 3.8% จาก 4.2% ในไตรมาส 4/65, และ 5) ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้น สำหรับธุรกิจ Mobility ปริมาณขายน้ำมันของ OR ในไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 7,002 ล้านลิตร เติบโต 4% YoY (ทรงตัว QoQ) จากอุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้นทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในอาเซียน กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 1.01 บาท/ลิตร ลดลง 11% YoY แต่เพิ่มขึ้น 110% QoQ

สําหรับธุรกิจ Lifestyle (non-oil) คาเฟ่อเมซอนมีปริมาณขายอยู่ที่ 91 ล้านแก้ว เติบโต 10% YoY และ 1% QoQ ในขณะที่ EBITDA margin ของธุรกิจ non-oil อยู่ที่ 24.2% ลดลงจาก 28.3% ในไตรมาส 1/65 (ค่าใช้จ่าย outsource และค่าใช้จ่ายด้านการจัดโปรโมชั่นที่เพิ่มขึ้น) แต่เพิ่มขึ้นจาก 21.4% ในไตรมาส 4/65 (ค่าใช้จ่ายด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์ที่ลดลง) สําหรับธุรกิจต่างประเทศ ปริมาณขายน้ำมันอยู่ที่ 394 ล้านลิตร เติบโต 5% YoY และ 9% QoQ ขณะที่คาเฟ่อเมซอนในต่างประเทศมีปริมาณขาย 6.6 ล้านแก้ว เติบโต 29% YoY และ 3% QoQ โดยมี EBITDA margin ของธุรกิจต่างประเทศอยู่ที่ 3.4% ลดลงจาก 3.8% ในไตรมาส 1/65 แต่เพิ่มขึ้นจาก 2.1% ในไตรมาส 4/65 (กำไรขั้นต้นจากธุรกิจน้ำมันที่เพิ่มขึ้น)

แนวโน้ม

กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นในประเทศไทยและอาเซียน จะหนุนปริมาณขายของธุรกิจน้ำมันและธุรกิจ non-oil ให้เพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/66 อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วไตรมาสที่สองจะเป็นช่วงที่อุปสงค์น้ำมันอ่อนตัวลงตามฤดูกาล ดังนั้นปริมาณขายน้ำมันของ OR จึงมีแนวโน้มลดลง QoQ แต่ปริมาณขายจากธุรกิจ non-oil จะยังคงรักษาการเติบโตที่แข็งแกร่ง QoQ ในไตรมาส 2/66 จากมุมมองด้านอัตรากำไรอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจน้ำมันมีแนวโน้มอ่อนตัว YoY (ทรงตัว QoQ) ในขณะที่อัตรากำไรจากธุรกิจ lifestyle มีแนวโน้มลดลง YoY (ทรงตัว QoQ) เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้น จากแนวโน้มดังกล่าว เราคาดว่ากําไรไตรมาส 2/66 ของ OR จะลดลง YoY และ QoQ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

กำไรสุทธิไตรมาส 1/66 คิดเป็น 25% ของประมาณการกำไรปี 2566 ที่ 11,792 ล้านบาท ซึ่งเรายังคงไว้ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

คําแนะนํา

คาดการณ์กำไรเติบโตแข็งแกร่ง YoY ในครึ่งหลังของปี 2566 และการเติบโตของกำไรในปี 2566 หนุนโดย อุปสงค์ในวงกว้างที่ปรับตัวดีขึ้น และการขยายตัวจากทั้งธุรกิจน้ำมันและธุรกิจ non-oil น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป นอกจากนี้ยังมีอัพไซต์ต่อประมาณการกำไรของเราจากการลงทุนใหม่ๆ เราจึงยังคงคําแนะนํา ชื้อ

- Advertisement -