บวกรับผลเลือกตั้งชัดเจน / 2566 1,560-1,585

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • คาดดัชนี SET ได้แรงหนุนจากในประเทศ กลบปัจจัยต่างประเทศ: แรงหนุนภายในประเทศจาก

1) ความชัดเจนของการเมืองในประเทศ ตอบรับผลการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลและเพื่อไทยมีคะแนนเสียงนำฝั่งอนุรักษ์นิยม กอปรกับได้แรงหนุนจากความหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทางพรรคได้หาเสียงไว้ โดยจากสถิติดัชนี SET จะปรับบวกเฉลี่ย 1.34% ในช่วงหนึ่งเดือนแรกหลังทราบผลการเลือกตั้ง และ sector ที่จะปรับตัวขึ้นดีได้แก่ CONS, PROP, FIN, TOURISM และ FOOD เป็นต้น แม่ต้องติดตามการฟอร์มรัฐบาลกันต่อ

2) แรงหนุนจากการเผยงบการเงินช่วงโค้งสุดท้าย และการจัดประชุมบริษัทเพื่อนำเสนอแผนธุรกิจใหม่ของเหล่าบริษัทจดทะเบียน ในสภาวะที่เศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว

3) คาดหวังต่างชาติโยกเงินเข้าหุ้นไทยบ้าง หลังพักในตลาดบอนด์ 6.1 หมื่นลบ. (MTD) และกลุ่มสถาบันที่ซื้อสะสมหุ้นไทยกว่า 2.2 หมื่นลบ. (YTD) แม้ Sentiment ต่างประเทศยังถูกกดดันจากฝั่งสหรัฐ ด้วยประเด็น 1) แม้ว่าทางฝ่ายจะคาดการเจรจาเพดานหนี้สหรัฐจะสามารถบรรลุได้แบบคาดเส้นตาย แต่ระหว่างทางจะยุ่งถูกกดดันจากการเจรจาที่ยืดเยื้อ โดย ปธน. สหรัฐและปธ.สภาผู้แทนฯสหรัฐจะเข้าเจรจาอีกครั้งในวันที่ 16 พ.ค. นี้ กอปรกับ 2) ม.มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่น ผู้บริโภคเดือน พ.ค. ต่ำกว่าคาด 63.0 จุด สู่ 57.7 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน นอกจากนี้ผู้บริโภคยังกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิง Hawkish ของเฟด ซึ่งจะกระทบต่อต้นทุนการกู้ยืม ปัจจัยดังกล่าวยังกดดันให้ราคานํามัน WTI เช้านี้ลงทดสอบระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล คาดจะส่งแรงกดดันต่อยังกลุ่มพลังงานเช้านี้

  • กลยุทธ์ลงทุน: 1) เก็งงบ: AAV, AMATA, CPN 2) เก็งหุ้นรับบวกหลังเลือกตั้ง: BBL, KBANK, CK, ITD, PR9, SC, SIRI, STEC 3) Spending + ท่องเที่ยว: CPALL, CRC, MAKRO, MINT

ปัจจัยบวก

  • วันนี้คาดสภาพัฒน์เผย GDP ไทย 1Q66 เติบโต 2.3%y-y คาดเป็นแรงหนุนต่อดัชนี
  • ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ พรรคฝั่งเสรีนิยม นำโดยพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย มีคะแนนนำฝั่ง อนุรักษ์นิยม คาดดัชนีจะตอบเชิงบวกจากความหวังการจัดตั้งรัฐบาล และนโยบายที่ทางพรรคได้หาเสียงไว้
  • รมว.พาณิชย์ เผยผลการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่เดือน เม.ย. 66 ที่ 6 พันราย (+12%y-y)
  • อังกฤษเผย GDP 1Q66 เติบโต 0.2%y-y ซึ่งยังเป็นระดับเหนือ 0 และขาดดุลการค้าเดือน มี.ค.ต่ำกว่าคาดสู่ 1.6 หมื่นลบ. ทําให้ตลาดคลายกังวลเศรษฐกิจอังกฤษ โดยเฉพาะคลายกังวลภาวะ Recession ลงไปได้

ปัจจัยลบ

  • FDIC ระบุว่าธนาคารใหญ่ 113 แห่งของสหรัฐต้องร่วมจ่ายเงินสมทบ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์เข้ากองทุนรับประกันเงินฝาก ซึ่งใช้ป้องกันเหตุ Bank Run และระบุว่าเงินฝาก แบบไม่มีประกัน (Uninsured Deposits) จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 0.125% .
  • ม.มิชิแกนจากสหรัฐฯ เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน พ.ค. ปรับตัวลงต่ำกว่าคาด 63.0 จุด สู่ 57.7 จุด

PICKS OF THE DAY

AAV BUY

  • เป้าหมาย 2.96/3.04 แนวรับ 2.74/2.80 
  • 1Q66 กำไรโต 115% y-y : 1Q66 ผู้โดยสาร +216% y-y, +13% q-q มาที่ 4.58 ล้านคน ทำให้อัตราการขนส่งขึ้นมาสูงถึง 92% อีกทั้งคาดค่าตั่ว +56% y-y จาก Demand การเดินทางที่เพิ่มขึ้น การใช้เครื่องบินเพิ่มเป็น 45 ลำ จากปีก่อน 23 ลำ ต้นทุนต่อหน่วย -50% กำไร 1Q66 โต 115% y-y ที่ 359 ลบ. ดีกว่าคาด

AMATA BUY

  • เป้าหมาย 23.80/24.80 แนวรับ 22.50/22.90
  • คาดรายได้ค่าสาธารณูปโภคจะเพิ่มขึ้น: AMATAV เผยงบ 1Q66 พบว่านิคมฯ ในเวียดนามมีรายได้ค่าสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นสู่ 278 ลบ. (+192%y-y) ทำให้สะท้อนภาพงบงวด 1Q66 ของ AMATA อาจเห็นการเติบโตจากรายได้ค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มมากขึ้น ตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
  • ต่างชาติย้ายฐานสู่ไทย ส่วนแผนธุรกิจ AMATA มีมาก : ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยังหนุนให้บริษัทต่างชาติแห่ย้ายฐานสู่นิคมในไทย สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเป็นแรงหนุน ด้านแผนธุรกิจอยู่ระหว่างศึกษาการ Spin Off อมตะ สแทรเทจิก โฮลดิ้ง เพื่อนำเงินไปใช้พัฒนาพื้นที่ในนิคม ส่วนงบ 1Q66 ที่จะออกสัปดาห์หน้า คาดเป็นเชิงบวก
- Advertisement -