TKS ส่งซิกแนวโน้ม Q2/66 จ่อบุ๊คกำไรจากเงินปันผล บุ๊คงบ Q1 รายได้อยู่ที่ 406.4 ลบ. กำไรสุทธิ 30.8 ลบ.

TKS คาดแนวโน้ม Q2 เติบโตดีกว่าไตรมาสแรกที่ผ่านมา เนื่องจากจะมีการรับรู้กำไรจากเงินปันผลที่ได้จากการเข้าลงทุนในบริษัทจดทะเบียนต่างๆ จำนวนไม่ต่ำกว่า 30 ลบ. สนับสนุนให้บริษัทสามารถรักษาผลประกอบการในภาพรวมได้ในระดับที่ดี  ล่าสุดประกาศผลงาน Q1/66 มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 406.4 ลบ. โต 2.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 30.8 ลบ.

 นายจุติพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS ผู้ประกอบธุรกิจ Security Printing ครบวงจรรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 นี้ ผลการดำเนินงานจากธุรกิจสิ่งพิมพ์ ยอดขายมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (H1/2565 ) จากยอดขายกลุ่มธุรกิจหลักและการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าส่งออก ทั้งนี้ระดับอัตรากำไรขั้นต้นและกำไรจากการดำเนินงานอาจจะได้รับผลกระทบจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ งานโครงการที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน และต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ แต่โดยภาพรวมธุรกิจหลักของบริษัทยังสามารถทำกำไรและกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อน ในขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมอย่าง SYNEX มีแนวโน้มหดตัวเช่นกัน อันเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายและอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวน

อย่างไรก็ดี ใน Q2/2566 บริษัทจะรับรู้กำไรจากเงินปันผลจากการกระจายเข้าลงทุนในบริษัทจดทะเบียนต่างๆในจำนวนไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้บริษัทยังสามารถรักษาผลประกอบการในภาพรวมได้อยู่ท่ามกลางปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อธุรกิจของกลุ่มบริษัท

ส่วนแผนการเข้าไปลงทุนถือหุ้นดีลใหม่ๆ บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาดีลต่างๆ ทั้งในส่วนของ Strategic Deal ของ TKS และ Tech Start up Deal ของ Next Ventures ซึ่งเป็นไปตามแผนการเติบโตแบบ Inorganic Growth

ขณะที่แผนการออกหุ้นกู้ กำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการเตรียมตัว คาดว่าจะออกได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 วงเงินและอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับความจำเป็นของเงินทุนในการลงทุนและทิศทางของอัตราดอกเบี้ยในตลาดในขณะที่จะออก

“ปี 2566 เชื่อว่ายังเห็นการเติบโตที่ดีของ TKS แม้จะมียอดขายบางส่วนลดลง แต่บางกลุ่มก็เพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่ารายได้จะเติบโตได้ราว 10%ซึ่งยังเดินหน้าในการขยายการลงทุนใหม่ๆ ตามกลยุทธ์การเป็น Tech Ecosystem Builder ที่ผ่านมาได้สร้าง Ecosystem ไว้จำนวนมาก ซึ่งการมีธุรกิจใหม่ยิ่งเข้ามาช่วยเสริม ดังนั้นน่าจะเห็นการลงทุนใหม่ๆ ต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีการรับรู้กำไรจากส่วน Non-printing ประมาณ 70%” นายจุติพันธุ์ กล่าว

สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดไตรมาส 1 ปี 2566  (1 ม.ค.-31 มี.ค. 2566) มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 406.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 8.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.1 โดยมีสาเหตุหลักจากยอดขายกลุ่มธุรกิจการพิมพ์ป้องกันการปลอมแปลง อาทิเช่น งานข้อสอบภาครัฐและรายได้ส่งออกขยายตัวขึ้น โดยมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 30.8 ล้านบาท  ลดลง 12.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.9 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 43.3 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 52.2 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 47.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 47.5 โดยสาเหตุหลักมาจากการลดลงของส่วนแบ่งกำไรจาก  SYNEX เนื่องจากยอดขายและกำไรขั้นต้นที่ลดลงจากสภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลงจากความผันผวนอย่างมากของค่าเงิน

อย่างไรก็ดี  บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการปรับแผนธุรกิจของบริษัทฯมาอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัล โดยการพัฒนานวัตกรรมด้านระบบสารสนเทศ และได้ปรับโครงสร้างองค์กรในกลุ่มบริษัทให้เกิดผลผนึกทั้งด้านการพัฒนาตลาดและผลิตภัณฑ์ และด้านการลดต้นทุนการผลิตเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันโดยรวมสำหรับรักษาฐานธุรกิจเดิมควบคู่ไปกับการหาพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่

- Advertisement -