บล.ฟิลลิป:
BTG: 1Q66 หมูเถื่อนยังกดดันกำไร
ทยอยซื้อ TP’66: 27.00
1Q66 รายได้ยังเติบโต y-y จากการขยายกำลังการผลิตเป็นหลัก, GPM 12.7% ลดลงจากราคาหมูปรับตัวลงแรง ขณะราคาวัตถุดิบสูงขึ้น, กำไรสุทธิ 393 ลบ. -80.1%y-y -78.1%q-q, คาด 2Q66 ดีขึ้นเล็กน้อย จากราคาสัตว์ที่ปรับตัวดีขึ้น และจะมีปริมาณสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น, ราคาหมูฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ปรับคําแนะนําลงเป็น “ทยอยซื้อ”
งบรวม | 1Q66 | 4Q65 | 1Q65 | % y-y | % q-q |
กําไร | 393 | 1,796 | 1,970 | -80.1 | -78.1 |
EPS | 0.20 | 0.93 | 1.31 | -84.5 | -78.1 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- 1Q66 อ่อนตัว y-y และ q-q: 1Q66 รายได้ขายและบริการ 27,736 ลบ. +9.6%y-y-7.1%q-q เติบโต จากการขยายกำลังผลิตทั้งโรงงานอาหารสัตว์และโรงเชือดสุกร ทำให้มีปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น, GPM 12.7% ลดลง y-y และ q-q จากราคาหมูที่ปรับตัวลงแรงและต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ส่วน SG&A ลดลง y-y จากค่า ขนส่งที่ลดลง และการบริหารค่าซากเฉลี่ยได้ดีขึ้น กำไรสุทธิ 393 ลบ. -80.1%y-y -78.1%q-q
- 2Q66 เริ่มดีขึ้น: 2Q66 คาดว่ารายได้เติบโตขึ้นเล็กน้อยจากปัจจุบันราคาไก่มีทิศทางที่ดีขึ้น และการส่งออกไก่ที่เริ่มเข้าสู่ช่วง seasonal ใน 2Q66-3Q66 และโรงงานอาหารสัตว์ที่ปัจจุบันอัตรากำลังผลิตที่ 76% และจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้านต้นทุนจะทยอยลดลงได้ตั้งแต่ไตรมาสที่สอง จากการเริ่มปรับมาใช้ข้าวสาลี เพิ่มขึ้นซึ่งถูกกว่าข้าวโพด และปริมาณหมูเถื่อนที่ลดลงจากรัฐบาลที่เข้มงวดมากขึ้น, จากราคาหมูที่ฟื้นตัวช้า เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการจัดการกับปริมาณหมูเถื่อนที่คงค้างอยู่ในประเทศ ปรับประมาณการรายได้ปีนี้ลดลง คาดกำไรปี 66 ที่ 5,148 ลบ. -35.1%y-y, ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 27.00 บาท ปรับคำแนะนำลงเป็น” ทยอยซื้อ