ตลาดหุ้นวานนี้
SET Index ลดลง 2 จุด มีแรงขาย Sell on fact หลังสิ้นสุดการประกาศงบ 1Q23 ประกอบกับนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลเจรจาในการแก้ปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,530 – 1,535 จุด จากความกังวลเศรษฐกิจหดตัวหลังยอดค้าปลีกสหรัฐเดือนเม.ย.อ่อนแอโดยเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% ประกอบกับความไม่แน่นอนการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐซึ่งหากผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิ.ย.จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐและทั่วโลก ดังนั้นจึงแนะนำ Selective buy เช่นเดิมโดยรอจังหวะเข้าซื้อช่วงอ่อนตัว
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- BBL KTB TTB KBANK SCB แนวโน้มกำไร 2Q23 ยังคงเติบโต
- BDMS BEM BTS INTUCH ADVANC กลุ่ม Defensive ช่วงดัชนีผันผวน
หุ้นแนะนำวันนี้
- ADVANC (ปิด 213 ซื้อ/เป้า 250 บาท) แนวโน้มกำไรสุทธิกลับสู่เทรนด์ขาขึ้น จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และมีการแข่งขันที่ลดลง ขณะที่ ADVANC เป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอให้ Dividend yield ประมาณ 4% จึงเป็นหุ้นที่น่าสนใจในภาวะที่ตลาดผันผวนหรือพักตัว
- BDMS (ปิด 29.5 ซื้อ/เป้า 37 บาท) เป็นหุ้น Defensive เหมาะสำหรับพักเงินในภาวะที่ตลาดผันผวน แนวโน้มกำไรยังเป็นขาขึ้นคาดกำไรสุทธิปีนี้ที่ 1.4 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 14%yoy
บทวิเคราะห์วันนี้: BDMS (ปิด 29.5 ซื้อ/เป้า 37 บาท)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) กลุ่มท่องเที่ยว – จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มลดลง: โดยกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวฯ รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงวันที่ 8-14 พ.ค.มีจำนวนทั้งสิ้น 415,309 คน คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ยต่อวันที่ 59,329 คน ลดลง 7.1%wow นับเป็นค่าเฉลี่ยต่อวันต่ำที่สุดของปีนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก low season ของธุรกิจ
(-) เจ้าหน้าที่เฟดยังสนับสนุนให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อคุมเงินเฟ้อ: นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตากล่าวสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป มากกว่าที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย สอดคล้องกับ นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เฟดยังสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีกหากเงินเฟ้อยังไม่ลดลง
(-) กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนฟื้นตัวช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้: วานนี้จีนรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย.ปรับตัวขึ้น 5.6%yoy สูงขึ้นจากเดือน มี.ค.ที่ขยายตัว 3.9% แต่กว่า Consensus คาดไว้ที่ 10.9%yoy ขณะเดียวกันยอดค้าปลีกขยายตัว 18.4%yoy สูงขึ้นจาก 10.6%yoy ในเดือน มี.ค. แต่ต่ำกว่าที่ Consensus คาดว่าจะโต 21%yoy การฟื้นตัวช้าจะมีผลต่อการเติบโตของ GDP โลกและมีผลลบต่อทิศทางของราคาพลังงาน
ข่าวในประเทศและต่างประเทศ
สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ
ไทย
(-) ดัชนีความเช่ือมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนเมษายน 2566 อยู่ที่ระดับ 95.0 ปรับตัวลดลงจากระดับ 97.8 ในเดือนมีนาคม ปรับตัวลดลงคร้ังแรกใน 4 เดือน
สหรัฐ
(-) ยอดค้าปลีกสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8% หลังจากร่วงลง 0.7% ในเดือนมี.ค.
ยุโรป
(+) เศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัว 0.1% ใน 1Q23 โดยการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นและการส่งออกที่พุ่งขึ้นอย่างมากได้ช่วยหนุนยอดเกินดุลการค้าของยูโรโซน
เอเชีย
(+/-) สํานักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 5.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแม้ว่าขยายตัวรวดเร็วกว่าในเดือนมี.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 3.9% แต่ก็ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสํารวจของสํานักข่าวรอยเตอร์คาดไว้ว่าอาจจะขยายตัว 10.9%