บล.กรุงศรีฯ:

SOMBOON ADVANC TECHNOLOGY (SAT TB/ SAT.BK)

SAT – แนวโน้มการเติบโตไม่น่าสนใจ (TP Bt21.0, HOLD)
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์
หุ้นSAT
มูลค่าพื้นฐาน21.00
คำแนะนำHOLD

เรากลับมาศึกษาหุ้น SAT อีกครั้ง โดยแนะนำถือ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 21 บาทา ถึงแม้เราจะคาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของ SAT จะอยู่ในระดับดีที่ 7.4% ต่อปี แต่เรามองว่าแนวโน้มการเติบโตดูไม่น่าสนใจ ในขณะที่ราคาหุ้นค่อนข้างแพงกว่าหุ้นอื่นในกลุ่ม

เรามองว่าแนวโน้มการเติบโตของ SAT ในปีนี้จะยังคงไม่น่าสนใจ โดยผู้บริหารของ SAT ยังคงมองแบบอนุรักษ์นิยมโดยคาดว่า i) การผลิตเครื่องจักรเพื่อการเกษตร (20% ของรายได้รวมของบริษัท) จะทรงตัวจากเมื่อปีที่แล้ว ii) ยอดผลิตรถยนต์ในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย iii) ต้นทุนค่าไฟฟ้า และแรงงานจะเพิ่มขึ้นใน 2H23 และ iv) Stron ซึ่งเป็นธุรกิจผลิตรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าจะเริ่มผลิตแบบ mass production แต่จะยังไม่ส่งผลต่อผลประกอบการของ SAT เพราะธุรกิจนี้ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน

คาดว่ากำไรสุทธิของ SAT จะโตแค่ 5%

เราคาดว่ารายได้ของ SAT ในปี 2023 จะอยู่ที่ 9.6 พันล้านบาท (+8% yoy) เนื่องจาก i) คาดว่ายอดผลิตรถยนต์ในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้น 3% และ ii) คาดว่ายอดคำสั่งซื้อใหม่จะอยู่ที่ 500 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เราคิดว่า GPM จะลดลงเหลือ  17.8% จาก 18.1% ในปี 2022 เพราะใน 3Q22 บริษัทมีการปรับรายการ COGS 40 ล้านบาทซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ถึงแม้ว่าในที่สุดบริษัทจะสามารถส่งผ่านภาระต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นไปให้ลูกค้าได้ใน 1H23 แต่อานิสงส์บางส่วนจะถูกหักล้างไปกับต้นทุนค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ดังนั้น เราจึงคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ SAT ในปี 2023 จะเพิ่มขึ้นเป็น 990 ล้านบาท (+5% yoy)

แนะนำถือ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 21 บาท โดยเราชอบ AH มากกว่า SAT

เราคาดว่ากำไรของ SAT ในปีนี้จะโตต่ำกว่า Aapico Hitech (AH TB แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 41 บาท) ในขณะที่ราคาหุ้น SAT มี P/E สูงกว่า AH ดังนั้น เราจึงชอบหุ้น AH ซึ่งเป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้ มากกว่า SAT เราประเมินราคาเป้าหมายของ SAT ที่ 21 บาท อิงจาก P/E ที่ 9x  (เท่ากับ P/E เฉลี่ย) ทั้งนี้ เนื่องจาก SAT จะเข้าสู่ช่วง low season ใน 2Q ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีปัจจัยกระตุ้นในระยะสั้น เราคิดว่าประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจของ SAT ได้แก่ i) เป็นหุ้นปันผลที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่า 7.5% และ ii) งบดุลแข็งแกร่งโดยมีสถานะเงินสดสุทธิมากกว่า 3 พันล้านบาท หรือ 7 บาทต่อหุ้น

- Advertisement -