KS Daily View 18.05.2023 >>>  ประชุม 6 พรรคจัดตั้งรัฐบาล Debt ceiling สหรัฐมีแนวโน้มดีขึ้น SET คาดแกว่งตัวในกรอบ 1,520-1,585 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ KTB, BDMS

สรุปภาวะตลาดเมื่อวานนี้

ต่างประเทศ: ดัชนี DJIA +1.24%, S&P 500 +1.19%, and NASDAQ +1.28% โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่ Financials (+2.09%), Energy (+2.07%), Consumer Discretionary (+2.04%)  ส่วน Sector ที่ underperform ได้แก่ Utilities (-0.36%), Consumer Staples (-0.10%), Healthcare (+0.1%)

ในประเทศ: SET Index -17.10 จุด หรือ -1.11% ปิดที่ 1,522.74 จุด หุ้นตัวที่ outperform ได้แก่ MEGA (+2.7%), VGI (+2.6%), JMT (+1.8%), TQM (+1.8%) ขณะที่ตัวที่ปรับตัวแย่กว่าตลาดได้แก่ PSL (-10.2%), KEX (-7.3%), AP (-7.1%), SAWAD (-6.7%)

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,520-1,585 จุด หลังมีการประชุมจัดตั้งรัฐบาลจาก 6 พรรคการเมืองเย็นวานนี้ และคาดว่าจะมีอีก 2 พรรคเข้าร่วม รวม 313 เสียง ส่วนความคืบหน้า รอแถลงวันนี้ เวลา 10.00 น. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังต้องจับตาเรื่อง Debt ceiling ของสหรัฐ ซึงขณะที่ยอดเงินสดคงคลังเหลือต่ำกว่า 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เชื่อว่าท้ายสุดจะมีการตกลงกันได้ในการขยายเพดานหนี้ อาจจะเป็นจังหวะซื้อสะสมเมื่อตลาดหุ้นปรับตัวลดลงมา

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.) เย็นวานนี้มีการประชุม 6 พรรคการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ได้แก่ พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ และพรรคเป็นธรรม โดยนายพิธา ลิ้นเจริญรัตน์ ระบุว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยดี” และจะแถลงความคืบหน้าอีกครั้งในวันนี้ เวลาประมาณ 10.00 น. คาดว่าพรรคก้าวไกลต้องการเก้าอี้รัฐมนตรี ควบ รมว. กลาโหม รวมถึง รมว. มหาไทย ส่วนพรรคเพื่อไทยต้องการกระทรวงเศรษฐกิจ และคาดว่าจะมีอีก 2 พรรคเข้ารวมคือ พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคเพื่อไทยรวมพลัง รวม 313 เสียง ขณะที่พรรคภูมิใจไทย แถลงจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลที่มีการแก้ไข-ยกเลิก ม.112

2) สำนักข่าว CNN รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ จะเดินทางออกจากกรุงวอชิงตัน ดีซี  เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ G7 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันศุกร์นี้ อย่างไรก็ดี ปธน.ไบเดนจะเดินทางออกจากญี่ปุ่นทันที หลังเสร็จสิ้นการประชุม G7 โดยจะกลับถึงกรุงวอชิงตัน ดีซีในวันอาทิตย์นี้ ขณะที่ยกเลิกการเดินทางเยือนออสเตรเลียและปาปัวนิวกินี เพื่อสานต่อการเจรจากับสภาคองเกรสในการทำข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ ด้านนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นว่าสหรัฐจะไม่ผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่คณะทำงานของทำเนียบขาวและสภาคองเกรสกำลังมีความคืบหน้าในการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ

3.) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนเม.ย. สู่ระดับ 1.4 ล้านยูนิต สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 1.37 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. ส่วนการอนุญาตก่อสร้างบ้านลดลง 1.5% สู่ระดับ 1.416 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.438 ล้านยูนิต

4.) สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 2.5 ล้านบาร์เรล

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

เน้นหุ้น Domestic play ที่ผลประกอบการไตรมาส 1Q23 แข็งแกร่ง และมีแนวโน้มเติบโตหลังการเลือกตั้งจากนโยบายกระตุ้นของภาครัฐ และความเชื่อมั่นภาคเอกชนฟื้นตัว ได้แก่ KTB, CPALL, CK, TOA, SAK, AEONTS SIRI เป็นต้น

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

KTB (ราคาพื้นฐาน 24.75 บาท) เรามีมุมมองเชิงบวกเล็กน้อยจากการประชุมนักวิเคราะห์ของ KTB เมื่อวานนี้ เนื่องจากผู้บริหารคาดว่า NIM จะสูงขึ้นในไตรมาส 2/66-3/66 ด้วยต้นทุนที่ควบคุมได้ เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566-2568 ขึ้น 10.6-11.2% เนื่องจาก CIR ที่ลดลงและ NIM ที่สูงขึ้น NIM จะเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าต้นทุนเครดิต เราไม่กังวลมากนักกับดอกเบี้ยค้างรับที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจาก 7 ระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้ของรัฐบาล ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 24.75 บาท (จาก 20.40 บาท)

BDMS (ราคาพื้นฐาน 34.10 บาท) แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายกลางปี 2567 ที่ 34.10 บาท เพิ่มขึ้นจาก 33.30 บาท จากการปรับปีฐานราคาเป้าหมาย ผู้บริหารมองว่าเร็วเกินไปที่จะปรับแนวทางการเติบโตปี 66 และคงเป้าการเติบโตของรายได้และ EBITDA margin แบบระมัดระวังที่ 6-8% และ 24% ตามลำดับ ส่วน รพ. ใหม่ในปี 66-67 คาดจะไม่กดดันอัตรากำไรอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ BDMS จะดึงดูดคนไข้ต่างชาติจากหลายภูมิภาคและประเทศมากขึ้น

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ:

  • วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลขส่งออกของญี่ปุ่นเดือน เม.ย. คาด +3% YoY ตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯ รายสัปดาห์คาด +254K (เทียบสัปดาห์ก่อนที่ +264K) ตัวเลข Existing Home Sales ของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด4.4M (-1% MoM) ถ้อยแถลงของ Fed Jefferson
  • วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลข CPI ของญี่ปุ่นเดือน เม.ย. คาด +0.1% MoM และ +3.2% YoY ตัวเลข Core CPI ของญี่ปุ่นเดือน เม.ย. คาด +3.2% YoY ตัวเลข PPI ของเยอรมันเดือน เม.ย. คาด +6.1% YoY และถ้อยแถลงของ Fed Chair Powell
- Advertisement -