ลุ้นการฟื้นตัวเล็กน้อย โดยคืนนี้รอดูแถลงจากประธาน FED

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.3% ตอบรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ Wall Mart และความคืบหน้าในการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ลดลง 1.4% รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯเปิดเผยผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.4 แสนรายต่ำกว่า นักวิเคราะห์ประเมินที่ 2.5 แสนราย  พร้อมกับผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องที่ 1.79 ล้านราย ต่ำกว่านักวิเคราะห์ประเมินที่ 1.82 ล้านราย พร้อมกับยอดขายบ้านมือสองที่ 4.28 ล้านหลังคาเรือน โดยตัวเลขแรงงานที่แข็งแกร่งหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับขึ้นมาแข็งค่า พร้อมกับการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2 และ 10 ปี ขณะที่ CME FED Watch เริ่มปรับลดน้ำหนักคงดอกเบี้ยของ FED ในการประชุมกลางเดือน มิ.ย. เหลือเพียง 63.8% จากก่อนหน้าที่ 71.6% เบื้องต้นมองปัจจัยข้างต้นเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นเล็กน้อย โดยคืนนี้รอติดตามแถลงจากประธาน FED ช่วง 22.00 ตามเวลาประเทศไทยจะมีกล่าวเกี่ยวกับนโยบายการเงิน ณ วอชิงตัน ดีซี ส่วนในประเทศไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ๆ ยังเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมืองล่าสุดพรรคก้าวไก ลแถลงว่าได้เสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 313 เสียงถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นมากขึ้นในแง่ของการจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่เพียงพอหากเทียบกับครึ่งนึงของรัฐสภาที่ 376 เสียง ซึ่งยังขาดอีกกว่า 63 เสียง จึงต้องรอดูท่าทีของ ส.ว. ว่าจะโหวดให้หรือไม่หากมีท่าทีจะ โหวดให้ก็เชื่อว่าตลาดจะตอบรับเชิงบวก และหลังจากนั้นคาดตลาดจะรอดูนโยบายการบริหาร โดยเบื้องต้นตามกำหนดการเลือกนายกฯ จะอยู่ในช่วงต้นเดือน ส.ค.

วันนี้ประเมิน SET INDEX ปรับตัวขึ้นในกรอบ 1527 – 1535 จิตวิทยาการลงทุนดูเป็นบวกจากการปรับขึ้นของ Dow Jones และ เช้านี้ Nikkei ปรับขึ้น 0.5% ขณะที่ปัจจัยกดดันจากการเมือง ทั้งความไม่แน่นอนจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงนโยบายของก้าวไกลได้ Price In ในราคาไปพอสมควร

เชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังเน้นทยอยตั้งรับในหุ้นใหญ่ที่ปัจจัยพื้นฐานดี อาทิ ธนาคาร (BBL KBANK SCB) ค้าปลีก (BJC CPALL DOHOME HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) รถไฟฟ้า (BEM) ท่องเที่ยว (AOT MINT VRANDA) โรงไฟฟ้า (BGRIM) ส่วน Trading ระยะสั้นเน้นหุ้นกำไรเด่น (ICHI MINT SAPPE)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

KBANK (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 160.00 บาท) เรายังคงสมมติฐานค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญปี 2023 ที่ 210bp และลดลงเป็น 190bp ในปี 2024 เพราะคาดว่าการระบายงบดุลจะแล้วเสร็จในปี 2023 แม้เราจะมีสมมติฐานด้านค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่รัดกุม แต่คาดว่าการเติบโตของกำไรสุทธิของ KBANK จะกลับมาเป็นบวกที่ 15%/4% YoY ในปี 2023-24 (2022: -6%)

ICHI (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 15.00 บาท) มองบวกต่อภาพรวมไตรมาส 2/23 หนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสำหรับชาพร้อมดื่ม และอัตราการดำเนินงานที่คาดเพิ่มขึ้นเป็น 70% จาก 58% ในไตรมาส 2/22 ทั้งนี้ กำไรสุทธิไตรมาส 1/23 อยู่ที่ 222 ล้านบาท (+ 113%YoY, +15%QoQ) สอดคล้องกับคาดการณ์ของเราและ Bloomberg consensus

 

- Advertisement -