บล.ทรีนีตี้ 

โรงพยาบาลจุฬารัตน์ – CHG

ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 3.94 บาท / Upside/Downside +26% / Median Consensus 4.00 บาท

ปรับกำไรปี 2566 ลงจาก Margin ที่ลดลง

  • คาด 2Q66 มีผลประกอบการใกล้เคียง 1Q66 และ 2H66 คาดเติบโตได้ HoH
  • ปรับลดคาดการณ์รายได้และกำไรปี 2566 ลง 7.4% และ 29.3% เป็น 7.16 พันล้านบาท และ 1.1 พันล้านบาท
  • พร้อมเปิดบริการโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่งในปี 2566 หนุนรายได้เติบโตระยะยาว
  • ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายใหม่ 3.94 บาท โดยวิธี DCF อิงค่า WACC ที่  8.2%

Meeting Key Takeaways

  • EBITDA Margin ใน 1Q66 อยู่ที่ 23.9% ปรับตัวลดลงจากระดับ 51.1% ใน 1Q65 จากต้นทุนที่สูงขึ้นตามสัดส่วนรายได้ COVID-19 ที่ลดลง
  • รายได้กลุ่มประกันสังคมปรับตัวลดลง 10.0% QoQ แต่ปรับตัวสูงขึ้น 19.3% YoY จากจำนวนผู้ประกันตนที่ 5.25 แสนราย ปรับตัวสูงขึ้น 8.6% YoY
  • Utilization rate ของกลุ่ม OPD อยู่ที่ 53.8% อ่อนตัวลงจาก 75.6% ใน 4Q65 จากการเพิ่มห้องตรวจ ในขณะที่ Utilization rate ของกลุ่ม IPD อยู่ที่ 72.2% ปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 69.8% ใน 4Q65 จากการกลับมารับการรักษาโรคซับซ้อน
  • จะมีโรงพยาบาลเปิดให้บริการใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ 1) ในเดือนมิ.ย. 2566 จะเริ่มให้บริการโรงพยาบาล Chularat Maesort ขนาด 100 เตียง รองรับคนไข้กลุ่มเงินสดและคนไข้ต่างชาติ 2) ในเดือนก.ค. 2566 จะเริ่มให้บริการ Chularat Medical Center ที่รับผู้ป่วยมะเร็ง ทั้งจาก Chularat 3 และโรงพยาบาลใกล้เคียง ที่จะมาช่วยเพิ่มศักยภาพในการรักษาและรายได้/บิล
  • ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนเตียงจาก 793 เตียง เป็น 1,300 เตียง ภายในปี 2570 จากการเพิ่มจำนวนเตียงในโรงพยาลที่ดำเนินการอยู่ และการสร้างโรงพยาบาลใหม่เพิ่ม ได้แก่ โรงพยายาล Chularat Phraeksa
  • คาดสัดส่วนรายได้จากกลุ่มคนไข้ต่างชาติที่ 3% จากเป้ารายได้ที่ 8.0 พันล้านบาท จากสัดส่วนที่เคยทําได้ที่ 5% ของรายได้ในปี 2562
  • คาดผลประกอบการ 2Q66 ใกล้เคียง 1Q66 และจะเติบโตใน 2H66

รายได้และ Margin อ่อนตัวลง

  • ปรับลดคาดการณ์รายได้และกำไรปี 2566 ลง 7.4% และ 29.3% เป็น 7.16 พันล้านบาท และ 1.1 พันล้านบาท ตามลำดับ จากการปรับ EBITDA Margin ลง หลังต้นทุนการบริการและค่าใช้จ่ายในการเปิดโรงพยาบาลใหม่เพิ่มขึ้น
  • มี Upside จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ปะกันตน จาก Quota ที่ 5.64 แสนราย และการเปิดโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่งในปี 2566 ที่จะหนุนจำนวนผู้รับบริการ
  • Downside จากการปรับตัวสูงขึ้นของต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการเปิดบริการโรงพยาบาลใหม่

ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายใหม่ 3.94 บาท

ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 3.94 บาท (จาก 4.70 บาท) ด้วยวิธี DCF อิง WACC ที่ 8.2% โดยปัจจุบัน CHG เทรดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ : 29X แม้ว่ารายได้และกำไรปี 2566-2567 จะลดลงจากฐานที่สูง แต่เรามองว่าจะเป็นการกลับสู่สถานการณ์ปกติที่มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น ทั้ง D/E ที่ระดับต่ำ

ความเสี่ยง การแข่งขันด้านราคา เงินเฟ้อที่สูงขึ้น และโรคระบาดที่ไม่คาดฝัน

- Advertisement -