วันนี้คาดตลาด “Sideway Down”

แนวรับ 1,507 / 1,500 แนวต้าน 1,523 / 1,530 ความไม่แน่นอนทั้งการเมืองไทย-ร่างกฎหมายเพดานหน้ี และทิศทางดอกเบี้ยของ FED เข้ากดดันตลาด วันน้ีติดตามการประกาศ MOU ของพรรคก้าวไกล-พรรคร่วม

Our View? “อยู่กับความไม่แน่นอน”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,507 / 1,500 และแนวต้านที่บริเวณ 1,523 / 1,530 คาดตลาดหุ้นไทยยังอยู่กับความไม่แน่นอน ทางการเมืองภายในประเทศเกี่ยวกับการตั้งรัฐบาลและการเลือกนายกรัฐมนตรีที่จำเป็นต้องรอให้ กกต. ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการภายใน 60 วัน นับจากวันเลือกตั้ง ซึ่งทำให้เกิดเป็นสุญญากาศทางการเมืองในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งยังต้องติดตามการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่จำเป็นต้องใช้ เสียงของ ส.ว. ให้ครบทั้ง 2 สภาฯ มากกว่า 375 เสียง อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า กกต. อาจจะประกาศผลการเลือกตั้งได้เร็วกว่า 60 วัน ขณะที่การตั้งรัฐบาลคาดในท้ายที่สุดจะสามารถตั้งได้ จึงทำให้คาดว่าใน ช่วงเวลาดังกล่าวตลาดอาจเผชิญแรงขายระยะสั้น จากความไม่แน่นอนทางการเมือง รวมทั้งแนวโน้มนโยบายใหม่ที่จะออกมาโดยพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำาที่ 450 บาท ภายใน 100 วัน คาดจะกดดันทิศทางตลาดได้อยู่ อีกทั้งเราคาดว่าตลาดเผชิญแรงกดดันจากการปรับลดคาดการณ์ EPS ของตลาดหุ้นไทยลง หลังประกาศผลประกอบการ 1Q’66 จาก Bloomberg Consensus ล่าสุดอยู่ที่ บริเวณ 96.0+/- ส่งผลทำให้ความน่าสนใจในเชิง Valuation ของตลาดหุ้นไทยลด โดย Fwd PE ล่าสุด อยู่ที่ระดับราว 16 เท่า สูงสุดในภูมิภาคที่อยู่ระดับราว 12-13 เท่า กดดันกระแสเงินทุนต่างชาติไหลออกได้ต่อ

ขณะที่วันนี้แนะนำติดตามการประกาศ MOU ร่วมกันของพรรคก้าวไกลกับพรรคร่วมรัฐบาล คาดจะเป็นความชัดเจนเกี่ยวนโยบายของรัฐบาลก้าวไกลชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้เราแนะนำ “ทยอยซื้อสะสมเมื่อตลาดปรับตัวลง” สำหรับหุ้นในกลุ่ม Domestic Play อาทิ 1.) หุ้นในกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารขนาด กลาง-ใหญ่ (KBANK, SCB, BBL, KTB และ TTB) จากผลประกอบการ 1Q’66 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด พร้อมทั้ง 2Q′66 มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ 2). หุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, MAKRO, BJC, DOHOME และ GLOBAL) ที่เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และอยู่ในภาพการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวในประเทศจากการบริโภคและการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ รวมทั้งยังได้รับประโยชน์จากแนวโน้มค่าไฟที่ปรับลดลง

ทางด้านปัจจัยต่างประเทศ คาดได้รับแรงกดดันจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธาน ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ยของ FED หลังจากที่เจ้าหน้าที่ FED หลายท่านออกมาส่งสัญญาณหนุนให้ FED เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ ส่งผลทำให้ตลาดเริ่มกังวลต่อการขึ้นดอกเบี้ยของ FED มากขึ้น และเลื่อนคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ในปีนี้ออกไป หนุน US Bond Yield ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในภาพระยะสั้นต่อเนื่อง ลดทอนความน่าสนใจของทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงในมุมมองเชิงเปรียบเทียบ อีกทั้งตลาดยังได้รับจิตวิทยาเชิงลบ จากการเจรจาเพื่อผ่านร่างกฎหมายเพดานหนี้สหรัฐไม่คืบหน้าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเพราะจะต้องรอ ปธน. กลับมาการประชุม G7 เมื่อวานนี้ คาดจะมีการเจรจารอบใหม่อีกครั้งในวันนี้

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มิ.ย. เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา แม้พยายามฟื้นตัวกลับขึ้นบ้างแต่ยังอ่อนกำลังอยู่ ปิดที่ระดับ 71.55 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.31 ดอลลาร์ (- 0.43%) จากความกังวลแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐจากการที่การเจรจาเพื่อหาข้อตกลงร่วมกันในการผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ยังไม่มีความคืบหน้า กระตุ้นความกังวลถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย คาดจะกดดันทิศทางหุ้นไทยกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดได้ต่อ

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “GLOBAL”

  • คาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากแนวโน้มนโยบายการเพิ่มรายได้ทางการเกษตรหนุนทิศทางรายได้-กำไร GLOBALในครึ่งปีหลังฟื้นตัว
  • ทางเทคนิค Breakout Downtrend Line ก่อนหน้า ยก Low ได้ต่อเนื่อง
  • กลยุทธ์ สะสมเมื่ออ่อนตัว แนวรับ 18.30 / 17.90 Target 19.90 / 21.20 Stop <17.80

- Advertisement -