Daily Focus: Domestic and Selective Play
2023SET Target: 1700
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงต่อเนื่อง จากการเมืองในประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล ดัชนีปิดลบอีก 11.80 จุด ณ สิ้นวัน โดยหุ้นขนาดใหญ่บางตัวยังเผชิญแรงขายระยะสั้น สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 837 ลบ. และ 1.2 พันลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติพลิกมา Short Index Futures เกือบ 2.5 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังแกว่งตัว Sideways to Sideways Down โดยมีแนวรับหลักที่ 1,500 จุด โดยภาพทางเทคนิคไม่ดีนักหลังไม่สามารถปิดยืนเหนือ 1,520 จุดได้ในสัปดาห์ก่อน ความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมจากสส. และสว.อีก 63 เสียงให้ครบ 376 เสียงยังคงเป็นปัจจัย Overhang ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังต้องติดตามการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่ปธน.ไบเดนจะกลับมาพบกับคุณแมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนฯอีกครั้งคืนนี้ โดยต้องติดตามว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน พ.ค. หรือไม่ ส่วนการประชุม FED เดือน มิ.ย. ประธาน FED ส่งสัญญาณชัดขึ้นสำหรับโอกาสที่จะหยุดขึ้นดอกเบี้ยหลังจากมีปัญหาภาคธนาคารที่เกิดขึ้น แต่หากยังไม่ปรับตัวลงอาจทำให้ FED กลับมาพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือน ก.ค. ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์เริ่มพลิกกลับมาอ่อนค่าลง อย่างไรก็ตาม ภาพรวมปัจจัยต่างๆที่ยังขาดปัจจัยบวกหนุนที่ชัดเจน เราจึงยังคงเน้นเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และมีความเสี่ยงจากนโยบายของรัฐบาลใหม่จํากัด ยังชอบหุ้น Consumption/Reopening Play มากกว่า Global Play
กลยุทธ์ : ยังคงเน้นหุ้น Domestic และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว//ทยอยสะสมหุ้นเพิ่มที่ฐาน 1,500+- จุด
หุ้นเด่นเดือนพ.ค. : BA, BDMS, CPALL, ICHI, TOA
หุ้นเด่นวันนี้ : CPN
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 82 บาท
- ทิศทางกำไร 2Q23-2H23 คาดว่ายังคงแข็งแรงต่อเนื่องตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ขณะที่ส่วนลดค่าเช่าคาดปรับตัวลงต่อเนื่องจนกลับสู่ระดับปกติ ขณะที่ค่าไฟปรับที่ปรับลงเป็นปัจจัยบวก
- เราคาดยังคาดกำไรปี 2023 ที่ 1.3 หมื่นลบ. +18% y-y กลับไปสูงกว่าก่อนโควิด นอกจากนี้เราคาดธุรกิจของ CPN แข็งแรงและกระทบจำกัดจากความกังวลทิศทางนโยบายของรัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะประเด็นค่าแรงขั้นต่ำ
- แนวรับ 67//65 บาท แนวต้าน 70-71 บาท
Fund Flow : เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนยังไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่นต่อเนื่อง และเร่งขึ้นเป็น US$1,558 ล้าน ยังคงกระจุกตัวที่ไต้หวันและเกาหลีใต้ US$995 ล้าน และ US$480 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินค่อนไปในทิศทางไหลเข้านำโดยอินโดนีเซียและเวียดนาม แต่ ไหลออกจากไทย แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดชะลอการไหลเข้าหลังจากไหลเข้าหนาแน่น สัปดาห์ก่อน ตลาดยังจับตาการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐฯต่อในสัปดาห์นี้
ประเด็นสาคัญวันนี้
(0) จับตาการเซ็น MOU พรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ ทั้งหมด 8 พรรค รวมทั้งสิ้น 313 เสียง ว่าจะมีประเด็นใดบ้างใน MOU โดยเฉพาะด้านนโยบายเศรษฐกิจ รวมถึงรายละเอียดว่าจะลงลึกมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ยังคงต้องติดตามการหาเสียงเพิ่มทั้งฝั่งสส.อื่นๆและสว.ให้ครบทั้งสิ้น 376 เสียง ซึ่งจากความไม่แน่นอนที่ยังคงอยู่ทำให้ SET Index ยังฟื้นตัวได้จำกัดระยะสั้น
(+) CPALL เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q23 โดยล่าสุด SSSG ยังบวกได้ 7-9% Y-Y จากการบริโภคที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และเป็นช่วงหน้าร้อนทำให้เครื่องดื่มขายดี นอกจากนี้ยังได้อานิสงส์จากค่าไฟภาคธุรกิจที่เริ่มปรับลงในเดือน พ.ค.-ส.ค. 23 ลดแรงกดดันด้านค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ใน 2H23 คาดจะได้อานิสงส์ทางอ้อมจากการปรับโครงสร้างหนี้ Lotus’s ซึ่งทำให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลง เรายังคงประมาณการกำไรปี 2023 ที่ 1.7 หมื่นลบ. +30% y-y คงราคาเป้าหมาย 72 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) COM7 ผู้บริหารปรับเพิ่มเป้าการเติบโตรายได้ปี 2023 ขึ้นเป็น +20% y-y สอดคล้องกับคาดการณ์ของเรา โดยปรับขึ้นจากเดิมที่ +15% Y-Y โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จาก Accessory เป็น 20% ของรายได้รวมจาก 1Q23 ที่ 18% โดยเป็นกลุ่มที่มี Margin สูง เบื้องต้นเราประเมินกำไร 2Q23 จะยังเติบโต y-y ส่วน q-q คาดทรงถึงปรับลงจากปัจจัยฤดูกาลก่อนเร่ง ตัวอีกครั้งใน 3Q23 จากการเปิดตัว iPhone 15 เราคาดกำไรปี 2023 ที่ 3.4 พันลบ. +13% y-y คงราคาเป้าหมาย 40 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) MSCI Rebalance มีผลราคาปิดวันที่ 31 พ.ค. Global Standard หุ้นเข้า MAKRO หุ้นออก JMT TU ส่วน Global Small Cap หุ้นเข้า JMT TIDLOR SAPPE SISB TU หุ้นออก ไม่มี
(+) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 109.28 จุด หรือ -0.33% ปิดที่ 33,426.63 จุด จากการเจรจาเพดานหนี้ของสหรัฐในกรุงวอชิงตันหยุดชะงัก ทำให้เกิดความกังวลความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก แรงหนุนจากการทีบรรดาบริษัทขนาดใหญ่ เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งเกินคาด
(0) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดผสม ภายหลังจากการประชุม G-7 ที่ Hiroshima ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาเรื่องเพดานหนี้สหรัฐรอบใหม่ในวันนี้
(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 34.28 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 31 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 71.55 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้ โดยการเจรจาเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐหยุดชะงักลง ในขณะที่เช้านี้ปรับลงต่อที่ระดับ 71.50 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.07%
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 22.0 ดอลลาร์ หรือ 1.11% ปิดที่ 2,000.30 ดอลลาร์/ออนซ์ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 2,001.40 ดอลลาร์/ออนซ์ +0.05%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 942.74 / +5.78
