บล.ฟิลลิป:

อาร์เอส – RS การดำเนินงานปกติจะฟื้นตัวดีขึ้น

Key Point

1Q66 ธุรกิจปกติไม่มีกำไร แต่มีกำไรพิเศษขาย CHASE กำไรจึงเติบโต ช่วงที่เหลือกำไรปกติจะดีขึ้น จากการปรับกลยุทธ์ธุรกิจพาณิชย์ เพิ่มสัดส่วนสินค้าพาร์ทเนอร์ มีออกสินค้าใหม่ และรับรู้บริษัทใหม่ ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ดีขึ้นจากคอนเสิร์ต/อีเวนต์ที่มากขึ้น, เม็ดเงินโฆษณาพื้นจาก 1Q66 และจะได้พาร์ทเนอร์ในธุรกิจเพลง แต่จำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากการจ่ายหุ้นปันผล ปรับราคาพื้นฐานเป็น 14.90 บาท ลดคำแนะนำเป็น “ถือ”

1Q66 กำไรสุทธิโตจากรายการพิเศษ

1Q66 กำไรสุทธิ +67.3% y-y ที่ 92 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากกำไรพิเศษขายหุ้น CHASE ตอน IPO ที่มีกำไรหลังภาษีที่ 92 ล้านบาท โดยรายได้ -3.4% ที่ 813 ลบ. หลักๆ มาจากการลดลงจากรายได้พาณิชย์ (ขายสินค้า) -7.6% จากการลดสินค้าพาร์ทเนอร์ลงจากปีก่อนที่มีสัดส่วน 53% ลงเป็น 34% ทำให้สินค้ามีความหลากหลายน้อยลง และเป็น low season ของการขาย ในขณะที่รายได้เอ็นเตอร์เทนเมนต์โตเล็กน้อย จากการขายลิขสิทธิ์ใน OTT Platform เพิ่มเป็น 110 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 100 ล้านบาท ต้นทุน -11.8% ตามต้นทุนขายที่ลดลงตามรายได้ SG&A +19.4% จากการควบรวม RS Connect ตั้งแต่ 2Q65 และค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาทางการเงินในการขายหุ้น CHASE ที่ 10 ล้านบาท อีก ทั้งภาษีจ่ายที่สูงขึ้นมากมาจากภาษีขายหุ้น CHASE

2Q66 กำไรปกติฟื้นตัว นำโดยการจัดอีเวนต์และงบโฆษณาที่ฟื้นตัว

2Q66 แนวโน้มกำไรฟื้นตัวขึ้น q-q จากการปรับกลยุทธ์ในธุรกิจพาณิชย์ แม้ยอดขายเดือน เม.ย. อ่อนลงเทียบ มี.ค. แต่เพราะมีวันหยุดยาว โดยพิ่มสัดส่วนสินค้าพาร์ทเนอร์จาก 4Q65 ที่ 28% เป็น 34% ใน 1Q66 ส่วนใน 2Q66 สัดส่วนจะเพิ่มขึ้นอีก สินค้ามีความหลากหลายมากขึ้น รวมถึงการออกสินค้าใหม่ของ RS เอง น่าจะช่วยชดเชยเดือน เม.ย. ที่อ่อนตัวลงได้บ้าง มองรายได้พาณิชย์ 2Q66 ปรับตัวดีขึ้น q-q ส่วนธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์มีแนวโน้มดีขึ้น q-q เช่นกัน แม้เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อทีวีเดือน เม.ย. ยังคงลดลงเทียบ y-y แต่ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยรายเดือนใน 1Q66, รายการข่าวได้คุณ “พุทธ อภิวรรณ” เข้ามาคุมรายการข่าวและอ่านข่าวตั้งแต่ 19 เม.ย. เรตติ้งข่าวดีขึ้นจาก 0.6 เป็น 1.7 ดึงเม็ดเงินโฆษณาได้มากขึ้น, อีเวนต์มีจัดงานคอนเสิร์ต “RS Hit Journey” “Cool Summer Fest” และงาน Onground

2H66 เอ็นเตอร์เทนเมนต์เป็นตัวนำ และพาณิชย์ฟื้น

2H66 สื่อจะดีขึ้นจากโฆษณาที่เริ่มกลับมาใช้มากขึ้น และผลดีจากรายการข่าวที่ได้คุณพุทธ อภิวรรณ มาช่วยเพิ่มเรตติ้ง, มีคอนเสิร์ต 9 งาน ของ RS เอง 3 งาน เฟสติวัล 3 งาน รวมถึงที่ทำกับ GRAMMY 3 งาน ซึ่งมีการปรับเป้ารายได้คอนเสิร์ตที่ร่วมกับ GRAMMY เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาด 220 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท จากการขายลิขสิทธิ์ใน OTT, เพลงคาดว่าจะได้พาร์ทเนอร์ต่างประเทศต้น 3Q66 ซึ่งจะสร้างมูลค่าให้กับ RS Music ในการขยายธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ ปรับโครงสร้างธุรกิจเพลง โดยรวมธุรกิจที่เกี่ยวข้องไว้ด้วยกัน เพื่อเตรียมผลักดัน RS Music เข้าตลาดในปี 2567 ส่วนธุรกิจพาณิชย์จะได้ประโยชน์จากการเพิ่มสัดส่วนของพาร์ทเนอร์ และในปีนี้ RS เองก็มีแผนออกสินค้าใหม่ 45 SKU รวมถึงการรับรู้รายได้จาก “ฮาโตะ เพ็ท เวลเนส เซ็นเตอร์” ที่ถือหุ้น 51% เป็นการสร้าง eco- system ให้กับธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของ RS ส่วนดีเด่น เพ็ทมาร์ท ทำธุรกิจร้านค้าปลีกเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงยังเจรจาอยู่ และยังเจรจากับรายอื่นทั้งต้นน้ำ-ปลายน้ำ ซึ่งเป็นอีกธุรกิจที่ RS จะ spin off เข้าตลาดหลักทรัพย์

ปรับกำไรปี 2566 ขึ้นเล็กน้อย ปรับราคาพื้นฐานเป็น 14.90 บาท ลดคำแนะนำเป็น “ถือ”

ทางฝ่ายปรับคาดการณ์รายได้เป็น 4,612 ล้านบาท แต่มาร์จิ้นที่ดีกว่าคาดปรับกำไรขึ้น 5.4% เป็น 416 ล้านบาท แต่จำนวนหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นจากการจ่ายหุ้นปันผล ปรับราคาพื้นฐานลงเป็น 14.90 บาท ลดคำแนะนำจาก “ทยอยซื้อ” เป็น “ถือ”

ความเสี่ยง

  1. ประกาศและหลักเกณฑ์ของกสทช.
  2. แข่งขันในธุรกิจสื่อและพาณิชย์
  3. อายุของผลิตภัณฑ์สุขภาพ -ความงาม และการออกสินค้าใหม่

 

- Advertisement -