รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนีฯ รีบาวด์สั้น
Market wrap & Outlook
เมื่อวานดัชนีหุ้นไทยลงทดสอบ 1,490 จุด แล้วเด้งปิดบวก โดยบริเวณ 1,490-1,480 จุดนี้ เราได้กำหนดไว้ตั้งแต่ต้นว่าการปรับฐานรอบนี้ ในเบื้องต้นมีโอกาสได้เห็นการลงมาทดสอบ สำหรับหุ้นเด้งก่อนเพื่อนได้แก่ TRUE GULF PTTGC AOT EA BTG STANLY ส่วนหุ้นเดี้ยง (ยังลงต่อ) JAS CPN TIDLOR เป็นต้น
วันนี้คาดดัชนีฯ รีบาวด์สั้น เมื่อวานเปิดตลาดหุ้นมาดัชนีทิ้งดิ่งทันทีอีก 20 จุด หลุด 1,500 จุด และช่วงสายๆเราได้อัพเดทการรีบาวด์ของตลาดทันที ผ่านช่องทาง BLS “Wealth connex” โดยแนะนำการเล่นเก็งกำไร เพื่อหวังผลตอบแทนระยะสั้นจากการรีบาวด์ของหุ้น บูลชิพ ที่ราคาปรับฐานลงมาลึก เช่น AOT ADVANC BTS MINT GLOBAL เป็นต้น
What to watch
คาดธนาคารกลางนิวซีแลนด์ ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเป็นเจ้าแรก จาก 5.25% เป็น 5% ส่วนธนาคารกลางอินโดนีเซีย เกาหลีใต้ หยุดขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง
การหารือเพดานหนี้สหรัฐฯยังไม่ได้ข้อสรุป
การเมืองในประเทศ รอการจัดตั้งรัฐบาลใหม่
หุ้นแนะนำวันนี้
BTS Bargain hunting (market cap. ร่วงหายไปร่วมหมื่นล้านบาทจากข่าวร้ายฟ้องร้องคดีฯ (ซึ่งใช้เวลาอีกนาน), ขาดทุนจากเคส STARK JMART (หลักร้อย-พันล้านบาท) แต่เรามองว่า มีโอกาสสำหรับการเก็งกำไร เรื่องเงินชดเชยจากหนี้สายสีเขียวหลายหมื่นล้านบาท แถมยังมีส่วนแบ่งกำไรจากการวิ่งรถสายสีเหลือง สีทอง เป็นต้น
GLOBAL นโยบายแนวร่วมรัฐบาลใหม่ คาดเป็นบวกรายได้เศรษฐกิจฐานราก
Quantitative Strategy: SET อ่อนแอกว่าที่คาด
ตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงกดดันนานกว่าที่เราคาดเนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุน เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะยังคงผันผวนในระยะสั้น ดัชนี Composite Short-term ปรับตัวลงในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากดัชนี Short-term Bull-to-Bear และดัชนี Short-term Momentum Strength ปรับตัวลดลง เราคาดว่าดัชนี Composite Short-term น่าจะปรับตัวลงสู่ระดับ Oversold ฉุดจากดัชนี Short-term Momentum Strength เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนที่อ่อนแอ ดัชนี Medium-term Bull-to-Bear ปรับตัวลงแรงจากระดับ 35.7% ในกลางเดือน พ.ค. สู่ระดับ 18.3% ในขณะที่ดัชนี Medium-term Momentum Strength ก็ปรับตัวลงเช่นกันนับจากเดือน ก.พ. และคาดว่าจะเข้าสู่ระดับกรอบล่างในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เราประเมินกรอบการแกว่งตัวของดัชนี SET ระหว่างวันที่ 23 พ.ค.-5 มิ.ย. ในกรอบ 1460-1560 จุด
Global Investing Brief : ประธาน Fed เซนต์หลุยส์ มองขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- 3 ดัชนีหลักสหรัฐฯ ปิดผสม โดย Nasdaq +0.5% S&P 500 ปิดทรงตัวในแดนบวก (+0.02%) ขณะที่ DJIA -0.4% หลังตลาดกังวลเรื่องการขยายเพดานหนี้ หลังการเจรจาระหว่างโจ ไบเดนและนายแมคคาร์ธี ยังไม่มีความคืบหน้า โดยขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 10 วันก่อนที่จะถึงวันที่สหรัฐฯ อาจผิดนัดชำระหนี้ (1 มิ.ย. 66) ตามคาดการณ์ของเจเน็ต เยลเลน อีกทั้งยังได้รับแรงกดดันจากการที่ เจมส์ บูลลาร์ด ประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์มีมุมมองว่า Fed สามารถขึ้นดอกเบี้ยได้อีก 2 ครั้งในปีนี้ (0.50%) สวนทางกับมุมมองของตลาด เนื่องจากเงินเฟ้อมีความเสี่ยงที่จะไม่ปรับตัวลง และตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง
- Best Buy (BBY) จะเผยงบเดือน ก.พ.-เม.ย. 66 (F1Q67) ในวันที่ 25 พ.ค. 66 โดยคาดการณ์จาก Bloomberg cons. เผยรายได้หดตัว 10.4%YoY แตะ $9.5bn ขณะที่กำไรโต 3%YoY แตะ $0.3bn โดยรายได้ที่หดตัวครั้งนี้มาจากการขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ลดลงถึง 20%YoY สู่ $1.3bn ทั้งนี้เรามองว่ารายได้ในช่วงที่เหลือของปีมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวต่อ จากความต้องการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์มือถือที่มีแนวโน้มลดลงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ด้าน Bloomberg cons. ให้ TP ที่ $82.09
ตลาดหุ้นฮ่องกง
- วานนี้ดัชนีฮั่งเส็งฟื้น 1.2% นำโดย Baidu (9888) +3.3% Meituan (3690) +3.1% และ JD.com (9618) +2.1% หลังผลการประชุม G7 เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 66 ออกมาดีกว่าคาด ถึงแม้กลุ่มผู้นำ G7 ยังมีแผนที่จะลดการพึ่งพาการค้ากับจีนเพื่อกระจายความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทาน แต่ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะกีดกันการค้ากับจีน และยังคงเดินหน้าลงทุนในจีนต่อเนื่อง ด้านโจ ไบเดน เผยว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นในเวลาอันใกล้
- CSPC (1093) จะเผยงบ 1Q66 ในวันที่ 25 พ.ค. 66 โดยคาดการณ์จาก Bloomberg cons. เผยรายได้โต 3.7%YoY แตะ RMB8.2bn และกำไรโต 20%YoY แตะ RMB1.6bn หนุนจากกลุ่มยาระบบประสาทที่โต 4.4%YoY แตะ RMB2bn และกลุ่มยาระบบทางเดินอาหารที่โต 30%YoY แตะ RMB0.2bn ทั้งนี้เรามองบวกต่อรายได้ในช่วงที่เหลือของปี จากความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและวิตามินมีแนวโน้มโตต่อเนื่อง ด้าน Bloomberg cons. ให้ TP ที่ HKD11.77
ตลาดหุ้นเวียดนาม
- เมื่อวานนี้ดัชนี VN ฟื้น 0.3% นำโดยหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากการลงทุนภาครัฐ CII +7% และ HT1 +4% หลังหน่วยงานรัฐมีแผนที่จะขยายการผลิตไฟฟ้าไปยังเขตพื้นที่ขาดแคลน โดยคาดว่าจะมีการอนุมัติโครงการในเร็วๆ นี้ ซึ่งเรามองว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากจะช่วยให้การพัฒนาด้านสาธารณูปโภคเข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น
- FPT ที่มีน้ำหนัก 16% ในดัชนี VN Diamond ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของ DR FUEVND01 จัดงานประชุมผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 66 โดยเผยผลประกอบการ 4M66 ยอดขายโต 21%YoY สู่ VND15,749bn และกำไรโต 19%YoY สู่ VND2,880bn ซึ่งคิดเป็น 30% ของรายได้ปี 66 ที่บริษัทคาดไว้ ได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้อุปกรณ์ไอทีในองค์กรที่เพิ่มขึ้น โดยเรามีมุมมองบวกต่อรายได้ในช่วงที่เหลือของปีจากความต้องการสินค้าด้านไอทีทั่วโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัว
หุ้นเด่นประจำวัน : Alibaba (9988.HK)
- Tmall Genie หนึ่งในธุรกิจ E-Commerce ของ Alibaba เปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะรุ่นแรก “Smart glasses” ที่มาพร้อมกล้อง 5MP ระบบสั่งงานด้วยเสียง และระบบ Bone Conduction ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถฟังเพลง และรับสายโดยไม่ต้องใช้หูฟัง
- เรามองเป็นปัจจัยบวกต่อรายได้ธุรกิจ E-Commerce ในไตรมาสถัดไป (เม.ย. – มิ.ย. 66:F4Q66) ที่มีแนวโน้มโต 8%YoY แตะ RMB167.6bn อิงจาก Bloomberg cons.