ASL ANALYSIS GUIDE

ประเมิน SET Index แกว่งตัว Sideway หลังปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 1,518 ยืนได้มั่นคง ความเสี่ยงขาลงเริ่มจำกัด ลุ้นทดสอบแนวต้าน 1,540/1,550 เป็นกรอบพิจารณาเล่นรอบ

ประเด็นการลงทุน
1. ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ยังไม่ได้ข้อสรุป จับตาการเจรจากันวันต่อวัน
2. PMI ยุโรปอ่อนตัวลง
3. ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง ติดตาม PCE
  • วันนี้เคาะ STA แนวโน้ม 2Q66 ผู้บริหารประเมินธุรกิจยางจะปรับตัวดีขึ้น

MARKET STRATEGY

สรุปตลาดวานนี้ SETI ปิดที่ 1,534.84 จุด เพิ่มขึ้น 5.60 จุด (+0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 49,772.13 ล้านบาท ช่วงบ่ายสามารถรีบาวด์กลับมาเป็นบวกได้ โดยมีแรงซื้อกลุ่มแบงก์ช่วยหนุนดัชนี

Research Highlight: จับตาการเจรจากันเพดานหนี้แบบวันต่อวัน//คาดกลุ่มพลังงานหนุนตลาด

ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯยังไม่ได้ข้อสรุป จับตา การเจรจากันวันต่อวัน

  • การเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้รอบใหม่ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ โดยที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ ขณะที่นายแมคคาร์ธีกล่าวว่าเขาจะเจรจากับปธน.ไบเดน แบบวันต่อวันจนกว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลง
  • มองว่าจะกระทบต่อภาพรวมการลงทุนทั่วโลกจนกว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และคาดหวังให้ผลลัพธ์ออกมาในทิศทางบวก ก่อน 1 มิ.ย. (X-date) ในกรณีที่ร้ายแรงที่สุดหากไม่สามารถตกลงกันได้ก่อน X-date อาจทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะ S&P500 ปรับตัวลงแรงกว่า 10%

PMI ยุโรปอ่อนตัวลง

  • PMI รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.3 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 54.1 ในเดือนเม.ย. แต่ทั้งนี้หากพิจารณาเฉพาะ PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น ปรับตัวลงสู่ระดับ 44.6 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 45.8 ในเดือนเม.ย. และดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของยูโรโซนยังคงอยู่ในภาวะหดตัว

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง ติดตาม PCE

  • เอสแอนด์พี โกลบอลรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 54.5 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน จากระดับ 53.4 ในเดือนเม.ย. โดยดัชนี PMI อยู่เหนือระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
  • ก.พาณิชย์สหรัฐฯ รายงานยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 4.1% สู่ระดับ 683,000 ยูนิตในเดือน เม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2565 และสูงกว่าที่ตลาดคาด
  • ข้อมูลจาก Fed watch tool ระบุว่าตลาดปรับน้ำหนักลงเหลือเพียง 69.7% จากสัปดาห์ก่อนที่ 77.5% ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC รอบเดือน มิ.ย. ติดตามรายงานการประชุมเฟด และ PCE เม.ย. สหรัฐ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ

  • 24 พ.ค. สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
  • 25 พ.ค. รายงานการประชุม FOMC // GDP Q1 สหรัฐ// จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
  • 26 พ.ค. ยอดคำสั่งชื้อสินค้าคงทน (เดือนต่อเดือน) (เม.ย.) // ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (เม.ย.)

Investment Strategy

  • ประเมิน SET แกว่งตัว sideway หลังปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 1518 ยืนได้มั่นคง ความ เสี่ยงขาลงเริ่มจํากัด ลุ้นทดสอบแนวต้าน 1540/1550 เป็นกรอบพิจารณาเล่นรอบ
  • มองว่าได้กลุ่มพลังงานช่วยหนุนหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรง จากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงกว่าคาด รวมถึงรัฐมนตรีพลังงานซาอุฯ ได้ออกมาเตือนนักเก็งกำไรที่ขายชอร์ตในตลาด เพราะคาดหวังว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลงต่อไป ขณะที่จะมีการประชุม OPEC+ ในวันที่ 4 มิ.ย. นี้
  • ส่วนประเด็นด้านการเมืองมองว่าระดับ Forward PE ปัจจุบันที่ 16 เท่า (ค่าเฉลี่ยระยะยาว 0.5 5.D) ได้ price in ความไม่แน่นอนของการเมืองไทยไปพอสมควรแล้ว ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงในช่วงที่ประเทศไทยเกิดวิกฤติการเมืองในปี 2555-2556 ในขณะที่แนวโน้มของผลประกอบการส่วนใหญ่ ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี จึงมองว่าที่ระดับปัจจุบัน เป็นจังหวะสะสมระยะกลาง-ยาว
  • แนะนำ Selective buy ในกลุ่มธนาคาร KBANK KTB KKP ค้าปลีก BJC HMPRO และ ท่องเที่ยว AOT MINT ERW SHR กลุ่มพลังงาน PTTEP PTTGC BCP

Global Markets

(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงลง โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลว่าสหรัฐอาจจะผิดนัดชำระหนี้ หากทำเนียบขาวและสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจําเดือนพ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคูล (PCE) ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลดลง โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา และการเปิดเผยรายงานรายได้ที่น่าผิดหวังจากจูเลียส แบร์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดการความมั่งคั่งของสวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซน และปัญหาเรื่องเพดานหนีของสหรัฐ

(+) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดบวก ขานรับความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบีย ออกมาเตือนนักเก็งกำไรที่ขายชอร์ตในตลาด

(-) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยฉุดตลาด

หุ้นเคาะไป คุยไป…STA

  • แนวโน้ม 2Q66 ผู้บริหารประเมินธุรกิจยางจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจาก 1.กำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่า 245,000 ตันต่อปี ในช่วง 1Q66 ตามแผนการขยายโรงงานในจ.สระแก้วและกาฬสินธุ์ 2.ความต้องการใช้ยางแท่งที่มีมากกว่ากำลังการผลิต โดยปริมาณสต็อกวัตถุดิบของกลุ่มผู้ประกอบการล้อยางในปัจจุบันเริ่มลดลง ประกอบกับจีนเปิดประเทศ หนุน demand การใช้ยางมากขึ้น สะท้อนผ่าน PMI เม.ย.ที่ปรับตัวดีขึ้น และคาดว่า ราคายาง SICOM ได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วในช่วง 1Q66 รวมถึงได้ปัจจัยบวกต่อราคายางโลก จากปธ. เฟดส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC กลางเดือน มิ.ย.นี้
  • ขณะที่ยังได้พัฒนาแอป Sri Trang Friends ที่เพื่อให้ลูกค้าตรวจสอบแหล่งที่มาของวัตถุดิบ ที่ไม่ได้มาจากแหล่งปลูกยางที่มีการตัดไม้ทําลายป่า ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ายุโรป หลังกลุ่ม EU เตรียมประกาศใช้ EUDR ที่เป็นกฎหมายว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทําลายป่า และเป็นการใส่ใจด้าน ESG นอกจากนี้ ยังได้อานิสงส์จากนโยบายของหลายพรรคการเมืองที่จะแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ ให้ราคากลับมาในระดับที่เหมาะสม
  • ด้านภาพรวมผลการดำเนินงาน 1Q66 STA รายงานกำไรสุทธิ 287.9 ล้านบาท (-70.9%QoQ, -80.9%YoY) จากรายได้ที่ลดลง ตามราคาขายเฉลี่ยที่ปรับตัวลงกว่า 14%QoQ จากผลกระทบของภาวะอุปทานคงค้าง ขณะที่ปริมาณการขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากผ่านจุดต่ำสุดใน 3Q65 ด้าน GPM ปรับตัวลงต่อเนื่อง เหลือเพียง 11.2% เทียบกับ 4Q65 ที่ 13.3% และ 1Q65 ที่ 17.2% ต้าน IAA consensus ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 21.76 บาท
- Advertisement -