สรุปภาวะตลาด
วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีอ่อนตัวลงในช่วงเปิดตลาด แต่มีแรงซื้อกลับในช่วงเย็น มาจากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคาร พลังงาน อาหาร เป็นต้น ส่วนหุ้น DELTA -5.69% ส่งผลต่อดัชนี ราว -5.3 จุด โดยกองทุนซื้อหุ้นไทย MTD ราว 23,720 ลบ. ขณะที่ต่างชาติ MTD ขายราว -21,083 ลบ. ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,534.84 จุด +5.60 จุด +0.37% มูลค่าการซื้อขาย 49,772 ลบ. ต่างชาติ -3,852.84 ลบ. TFEX -4,011 สัญญา ตราสารหนี้ 3,827.61 ลบ.
ปัจจัยบวก+
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.19% ปิดที่ 72.91 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบียออกมาเตือนนักเก็งกำไรที่ขายซอร์ตในตลาด
+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 4.1%MoM สู่ระดับ 683,000 ยูนิตในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุด นับตั้งแต่เดือนมี.ค.2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 665,000 ยูนิต จากระดับ 656,000 ยูนิตในเดือนมี.ค.
+ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าภาพการลงนาม MOU ของทั้ง 8 พรรคที่ออกมาที่มี 23 เรื่อง และแนวปฏิบัติ 5 ข้อนั้น ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี และประเด็นที่ได้ยกมานั้น เรื่องเศรษฐกิจก็มีความชัดเจนที่มีทั้งประเด็นเร่งด่วน ทั้งลดภาระรายจ่าย เพิ่มรายได้
+ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือค่าเอฟทีในงวด ก.ย.-ธ.ค.66 นี้ มีแนวโน้มลดลงอย่างน้อยหน่วยละ 40-50 สตางค์ เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี มีแนวโน้มลดลง
ปัจจัยลบ –
– ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 231.07 จุด หรือ -0.69% โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลว่าสหรัฐอาจจะผิดนัดชำระหนี้ หากทำเนียบขาวและสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของเฟด และ PCE ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
– ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า รัฐบาลโซเวียตเป็นผู้สร้างโซเวียตยูเครน และไม่มีการปรากฏของยูเครนในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติก่อนหน้านั้น
– นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ส่งจดหมายเตือนถึงสภาคองเกรสเป็นฉบับที่ 3 ระบุว่า “มีความเป็นไปได้สูง” ที่กระทรวงการคลังจะไม่สามารถชำระหนี้ของรัฐบาลได้ หากไม่มีการขยายเพดานหนี้สหรัฐมูลค่า 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ก่อนวันที่ 1 มิ.ย.นี้
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีวันนี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลว่าสหรัฐอาจจะผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น ช่วยพยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,525-1,540 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- จำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น : AOT BAFS AAV BA MINT CENTEL ERW SPA
- หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL COM7 CPALL
- หุ้นเข้าคำนวณ MSCI Equity Indexes เข้า MAKRO ออก JMT, TU และ MSCI Small Cap Indexes เข้า JMT, TIDLOR, SAPPE, SISB ,TU ออก – มีผลวันที่ 31พ.ค.
หุ้นรายงานพิเศษ
PJW (ราคาเหมาะสม 7.00 บาท) มี Catalyst จากธุรกิจใหม่
- บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 1Q23 เท่ากับ 943.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +28.79%QoQ และ +3.5%YoY โดยได้อานิสงส์จากลูกค้ากลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ที่เติบโตโดดเด่น ด้านอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 18.5% ฟื้นตัวดีขึ้นจาก 16.3% ใน 4Q22 และ 17.7% ใน 1Q22 หลังราคาเม็ดพลาสติกที่เป็นต้นทุนหลักปรับตัวลง ส่งผลให้ 1Q23 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 39.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นโดดเด่น +237.9%QoQ แต่ลดลงเล็กน้อย -6.6%YoY
- คาดผลประกอบการปี 23 เติบโตต่อเนื่อง โดยมีแรงหนุนจากเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว นอกจากนี้บริษัทยังได้เข้าซื้อธุรกิจ Laundry ในช่วงปลายปี 22 ที่ผ่านมา และมีแผนขยายเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติก ซึ่งจะเป็น New S-curve ใหม่ คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปลายปีนี้ (ยังไม่รวมในประมาณการ) เราประมาณการรายได้และกำไรสุทธิปี 23 ราว 3,671.9 ล้านบาท และ 188.2 ล้านบาท เติบโต +9.9%YoY และ +125.4%YoY ตามลําดับ
- ความเห็น : เรามองว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 22 ที่ผ่านมา ประเมินราคาเหมาะสมอิงค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 5 ปีที่ระดับ 21 เท่า ได้ราคาเหมาะสมปี 23 เท่ากับ 7.00 บาท เริ่มต้นคําแนะนํา “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) ICHI (Bloomberg consensus 15.70 บาท) ปรับโมเดลอัพฐาน OEM เสริมรายได้ดันมาร์จิ้น ล่าสุดคว้า งาน OEM แบรนด์ดังจีนหนุนพอร์ตพุ่งบอสใหญ่ “ตัน ภาสกรนที” ส่งซิกไตรมาส 2/2566 ผลงานนิวไฮต่อเนื่อง อานิสงค์งานรับจ้างผลิตหนุนโตไม่หยุด บวกนักท่องเที่ยวจีนทะลักเข้าไทยอื้อหนุนยอดขายสดใส (ที่มา ทันหุ้น)
(+) D (Bloomberg consensus 7.88 บาท) ส่งสัญญาณผลงานโตทุกไตรมาส นักท่องเที่ยวใช้บริการพรึ่บ แย้มสัดส่วนต่างชาติพุ่งแตะ 60% จากก่อนหน้านี้ที่ 45% จับตา Capacity สิ้นปีชน 40% ด้านผู้บริหารอวดผลงานโค้งแรก กำไรแรง 243% จำนวนผู้ใช้บริการเฉลี่ย 22,842 ครั้ง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SAPPE (Bloomberg consensus 82.38 บาท) ลุยทำการตลาดต่างประเทศ ชู “โมกุ โมกุ” ยอดขายพุ่ง ดันยอดขายไตรมาส 2-3/2566 โตต่อมั่นใจรายได้ทั้งปีโต 25% มองโอกาสซื้อกิจการร่วมทุนหนุน เร่งอัพไลน์ ผลิตเพิ่ม 30% คาดเสร็จต้นปี 2567 ส่วนการขึ้นค่าแรง 450 บาท มองกระทบต่อกำไรไม่เกิน 1% (ที่มา ทันหุ้น)
(+) NCH (Bloomberg consensus – บาท) แย้มผลงานไตรมาส 2/66 ดีกว่าไตรมาสแรก คาดยอดพรีเซล- ยอดโอนพุ่ง หลังมียอดจองซื้อและแบ็กล็อกกว่า 1,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ ย้ำแผนปีนี้เปิดใหม่ 6 โครงการ มูลค่ารวม 4,900 ล้านบาท หนุนยอดขายปีนี้โต 25% แตะ 5,500 ล้านบาท คาดรายได้ทั้งปีพุ่ง 3,200 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- 24 พ.ค. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์
- สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
- สสอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
- 31 พ.ค. กำหนดประชุมกนง.ครั้งที่ 3/2566
- ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 24 พ.ค. สหรัฐ รายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
- อังกฤษ รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย.
- (เช้าวันที่ 25 พ.ค.) คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค.
- 25 พ.ค. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566 (ประมาณการครั้งที่ 2) ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนเม.ย.
- 26 พ.ค. สหรัฐ รายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเตือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
- 30 พ.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค. ดัชนีความเชื่อมั่น ผู้บริโภคเดือนพ.ค.จาก Conference Board
- 1 มิ.ย. วันสุดท้ายของของการบรรลุข้อตกลงการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ
- 4 มิ.ย. โอเปก และชาติพันธมิตรประชุมเพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมัน