ปัจจัยกดดันการเมืองจะค่อยๆ คลายตัวจากนี้
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนที่ผ่านมาปิดลบ 0.77% นักลงทุนยังคงกังวลกับการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.98% ตอบรับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่มีนัยยะสำคัญ มีเพียงสหรัฐฯ ที่รายงานสต็อกนํ้ามันดิบลดลง 12.5 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ว่าจะอยู่ที่ 1.9 ล้านบาร์เรล หนุนราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวเด่น ระยะสั้นมองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ส่วนการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์อื่นๆ อาทิ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร รัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 และ 10 ปี ยังค่อนข้างทรงตัว (ปรับขึ้นเล็กน้อย) ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เดินหน้าแข็งค่าต่อเนื่อง คาดว่านักลงทุนเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย จากความกังวลเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่เสี่ยงจะเข้าสู่ภาวะผิดนัดชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าท้ายที่สุดจะผ่านไปได้คล้ายกับทุกครั้งในอดีตที่ผ่านมา แต่การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ในอีกปัจจัยคือหนุนค่าเงินบาทอ่อนค่า ล่าสุดทดสอบ 34.6 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นการอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน แม้จะเป็นลบกับกระแสเงินทุนต่างชาติ แต่เป็นบวกกับหุ้นในกลุ่มส่งออก (KCE TU) มองเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ ในระยะสั้นสําหรับ SET INDEX เชื่อว่าแรงกดดันการเมืองเริ่มน้อยลงจากการปรับฐานลงมา 4.4% จากวันก่อนเลือกตั้งถึงจุดต่ำสุดเดิม และเชื่อว่าหลังจากนี้นักลงทุนจะกลับมาให้น้ำหนักกับปัจจัยเดิมๆ อาทิ เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย และภาวะเศรษฐกิจ โดยปัจจัยสำคัญจากนี้ได้แก่รายงานผลประชุม FED ครั้งก่อน (FED Minute) ในคืนนี้ และวันศุกร์จะมีรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ (PCE) Bloomberg Consensus ประเมินไว้ 4.3%YoY และ Core PCE ที่ 4.6%YoY หากต่ำกว่าประเมินไว้จะเป็นบวกกับตลาด ส่วนหลังจากนั้นนักลงทุนจะไปให้น้ำหนักกับประชุม FED ช่วงกลางเดือน มิ.ย. เบื้องต้น CME FED Watch ให้น้ำหนัก 66.4% ที่จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม และจะเป็นจุดสูงสุดของการปรับขึ้น
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหว 1530 – 1542 แม้จะมีแรงกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่ก็เชื่อว่าผลกระทบไม่มาก และเชื่อว่าจะมีแรงหนุนจากกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะทยอยสะสมด้วย Valuation ของ SET ที่ไม่แพง เน้นที่กลุ่มค้าปลีก (CPALL HMPRO) ธนาคารฯ (KBANK SCB) ขนส่ง (BEM) ศูนย์การค้า (CPN) รับเหมาก่อสร้าง (CK) ส่วน Trading เน้นที่กลุ่มส่งออก (TU KCE) ผลบวกจากค่าเงินบาท กลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ BRT
หุ้นแนะนําซื้อวันนี้
PTTEP (ถือ / ราคาเป้าหมาย 162.00 บาท) คาดว่าราคาน้ำมันดิบจะลดลงต่อเนื่องในปี 2023 และ 2024 เป็น US$78/บาร์เรล และ US$74.0/บาร์เรล ตามลำดับ มีสาเหตุจากอุปทานล้นเกิน และความกังวลด้านอุปสงค์จากสภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่มองว่าราคาหุ้นมี downside risk จำกัด เพราะมีราคาที่ไม่แพงอยู่แล้ว แถมยังมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าดึงดูดระดับ 5% ส่วนระยะสั้นมีปัจจัยบวกจากน้ำมัน
KCE (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 43.00 บาท) ระยะสั้นได้ปัจจัยบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าหนุนรายได้สกุลบาทฟื้นตัว พร้อมคาดว่าอุปสงค์จะฟื้นอีกทีในปี 2024 มองว่ากําไรจะแตะจุดสุดในครึ่งแรกปี 2023 และเชื่อว่า KCE จะได้อานิสงส์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า