บล.กรุงศรีฯ:
MEDIA SECTOR – สื่อ OOH เป็นเพชรในตมของแท้ (NEUTRAL)
นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) มองบวกกับแนวโน้มยอดโฆษณาปีนี้ โดยคาดว่าจะโต 4-7% ในขณะที่คาดว่าสื่อ OOH, โรงภาพยนตร์ และดิจิทัลจะ outperform อุตสาหกรรมสื่อ โดยคาดว่าจะโตในอัตรา 10-20%, 15-25% และ 7-12% ตามลำดับ มุมมองของ MAAT สอดคล้องกับของเราซึ่งคาดว่า OOH จะเป็นสื่อกลุ่มหลักที่ได้อานิสงส์จากภาวะปัจจุบัน แต่เนื่องจากราคาหุ้น PLANB ไม่ถูกแล้ว เราจึงแนะนำซื้อแค่ VGI เพียงตัวเดียว โดยประเมินราคเป้าหมายที่ 5.50 บาท
MAAT มองบวกกับยอดโฆษณาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023
เราได้จัด conference call กับผู้จัดการกองทุนที่เครือข่ายของเราในหัวข้อ “แนวโน้มยอดโฆษณาปี 2023” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ธราภุช จารุวัฒนะ นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) และ CEO กลุ่ม IPG Mediabrands Thailand เป็นวิทยากร โดยประเด็นสำคัญที่ได้จากรายการนี้ได้แก่ i) ทางสมาคมพบว่ายอดโฆษณาลดลงอย่างมาก (-5% yoy) ในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ (ดู figure 1) ซึ่งถือว่าผิดปกติเล็กน้อยเนื่องจากมีหลายปัจจัยเข้ามากระทบ ได้แก่ เงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อยอดโฆษณา แต่เนื่องจากเงินเฟ้อเริ่มแผ่วลงแล้ว ยอดโฆษณาจึงกลับมาเพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคม-เมษายน ดังนั้น ยอดโฆษณาในช่วงสี่เดือนแรกของปีนี้จึงอยู่ที่ -1% yoy (figure 2) ii) MATT คาดว่ายอดโฆษณาในปีนี้จะโต 4-7% จากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของการบริโภค และนักท่องเที่ยวต่างชาติ iii) คาดว่าสื่อโรงภาพยนตร์, สื่อ OOH และสื่อออนไลน์จะโตมากกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมสื่อ (ดู figure 3-4) ในขณะที่สื่อ TV จะโตเพียงเล็กน้อยเพราะผู้ชมเปลี่ยนไปดูสื่อออนไลน์ และ OOH แทน
สื่อ OOH ยังคงเป็นดาวเด่นในกลุ่มสื่อ โดยมีอัตราการเติบโตสูงกว่าสื่ออื่น
มองมองของ MATT สอดคล้องกับของเรา ที่คาดว่าสื่อ OOH จะได้อานิสงส์จากยอดโฆษณาที่พุ่งสูงขึ้น โดยในปีนี้ เราคาดว่ารายได้จากสื่อ OOH ของ PLANB จะโต 10% yoy (ขอบล่างของช่วงประมาณการของ MAAT) ซึ่งในกรณีที่ดีที่สุด รายได้จากสื่อ OOH สามารถจะโตได้ถึง 15-20% โดยยังมี upside จากประมาณการของเราอีก 4-8% อย่างไรก็ตาม สื่อ TV จะโตต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมสื่อไปอีกหลายปี เพราะผู้ชมเปลี่ยนไปดูสื่ออื่น ๆ แทน
แนะนำซื้อ VGI เนื่องจากสัดส่วน risk/reward น่าสนใจ
แม้ว่าเราจะมองบวกกับแนวโน้มของสื่อ OOH แต่เรามองว่าราหุ้น PLANB ในปัจจุบันไม่ได้ถูกมากแล้ว โดยคิดเป็น PE ปี 2003 ที่ 48x และ PE ปี 2024 ที่ 42x ในขณะที่ คาดว่า EPS ในช่วง 2 ปีนี้จะโต 15% CAGR ดังนั้น เราจึงแนะนำถือ PLANB ส่วน VGI ดูน่าสนใจเพราะผลการดำเนินงานใน 4QFY23 (สิ้นสุดเดือนมีนาคม) เหมือนจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว เนื่องจากคาดว่ายอดโฆษณาในระบบขนส่งมวลชนจะดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งใน 1QFY24 ดังนั้น เราจึงแนะนำซื้อ VGI