รอติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนนี้
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ เปิดเผยผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.29 แสนราย ดีกว่านักวิเคราะห์คาดที่ 2.49 แสนราย พร้อมกับผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องที่ 1.79 ล้านราย ใกล้เคียงตลาดคาดที่ 1.8 ล้านราย อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของแต่ละสินทรัพย์เมื่อคืนมีจุดน่ากังวล จากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งอายุ 2 และ 10 ปี พร้อมกับการแข็งค่าต่อเนื่องของสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนนึงคาดเป็นผลจากการรายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯ รวมถึงคืนนี้สหรัฐฯ จะมีกำหนดรายงานเงินเฟ้อ (PCE) ประจำเดือน เม.ย. Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 4.3%YoY และเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core PCE) ที่ 4.6%YoY จึงเป็นไปได้ที่นักลงทุนบางส่วนกังวลกับการรายงาน PCE ในคืนนี้ ตามกำหนดรายจะอยู่ในช่วง 20.30 น. ของเวลาประเทศไทย เมื่อมาดูความเห็นด้านดอกเบี้ย FED ช่วงกลางเดือน มิ.ย. จาก CME FED Watch พบว่าความเห็นเริ่มเปลี่ยนไปโดยให้น้ำหนักมากสุด (52%) ในการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% และอีก (48%) ให้น้ำหนักคงดอกเบี้ย ซึ่งเปลี่ยนไปจากก่อนหน้าที่อยู่สูงถึง 82% จึงจำเป็นต้องติดตามเงินเฟ้อคืนนี้ใกล้ชิด หากรายงานมาแล้วสูงกว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงไทย อย่างไรก็ตาม กับตลาดหุ้นไทยคาดผลกระทบจํากัดจากการที่ Underperform ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างมากโดย YTD S&P500 ให้ผลตอบแทน 8% สวนทาง SET INDEX -8% สําหรับ SET INDEX ยังประเมินเช่นเดิม ว่าแรงกดดันจากการเมืองจะค่อยๆ คลายตัวลงจากนี้นักลงทุนจะให้น้ำหนักกับตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ มากขึ้น รวมถึงการเจรจาเพดานหนี้สหรัฐฯ
โดยวันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1528 – 1543 อาจเผชิญแรงกดดันจากกลุ่มน้ำมันบ้าง แต่เชื่อว่าด้วยตลาดหุ้น Nikkei ที่เช้านี้ปรับตัวขึ้น 0.7% จะเป็นแรงหนุน
เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะทยอยสะสมหุ้นเช่นเดิมจาก Valuation ไม่แพง อาทิ กลุ่มค้าปลีก (CPALL HMPRO) ธนาคาร (BBL KBANK SCB) ขนส่ง (BEM) กลุ่มการเงิน (MTC) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT MINT) รับเหมาก่อสร้าง (CK) ส่วน Trading ระยะสั้นวันนี้เลือกกลุ่มส่งออก (HAN KCE TU) ผลบวกจากเงินบาทอ่อนค่า กลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL DOHOME HMPRO) และสินค้า IT (COM7) ผลบวกจากราคาน้ำมันปรับลงหนุนการบริโภคพื้นตัว
หุ้นแนะนําชื้อวันนี้
TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 20.80 บาท) แม้กำไรปกติในช่วง 1Q23 จะคิดเป็นเพียง 12% ของกำไรทั้งปีที่เราประเมินไว้ที่ 6,493 ลบ. แต่ด้วยแนวโน้มที่คาดว่าจะค่อยๆ ดีขึ้นในช่วง 2Q23 รวมถึงการฟื้นตัวของ RL ที่คาดว่าจะมีผลขาดทุนลดลงจากปีก่อนกว่า 50% เราจึงคงประมาณการเดิมไปก่อน ส่วนระยะสั้นมีปัจจัยบวกจากบาทอ่อนค่า
COM7 (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 37.00 บาท) คงมุมมองเชิง “บวก” สำหรับกลุ่ม IT พาณิชย์ของไทยเพราะ 1) มูลค่าหุ้นที่น่าดึงดูด ปัจจุบันซื้อขายกันที่ 14.7xPE’23E หรือราว -0.5SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี 2) อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่สูงในกรอบ 4.2%-6.5% โดยเฉพาะกรณีของ SIS และ SYNEX และ 3) เศรษฐกิจที่ค่อยๆ ฟื้นตัวที่จะ ไปเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภคขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 2023 และปี 2024 และ 4) ภาคธุรกิจไทยที่ปรับระบบเป็นดิจิทัลอย่างต่อเนื่องเลือก COM7 เป็นหุ้นเด่นโดยเฉพาะในระยะสั้นถึงกลาง